บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผยบริการ “EMS JUMBO” ส่งด่วน ของใหญ่ ของหนัก ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งของรูปร่างพิเศษ และสิ่งของขนาดใหญ่ที่ถูกส่งมากที่สุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ ซึ่งมีทั้งผู้ส่งที่เป็นภาคธุรกิจ และลูกค้าทั่วไป ทั้งนี้ ยังชู 4 โซลูชันที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการตลาด ได้แก่ ส่งด่วน ภายใน 2 – 4 วัน ส่งทั่วถึง ไม่มีข้อจำกัดในด้านพื้นที่ ส่งคุ้มค่า กับราคาที่เฉลี่ยเพียง 6 บาท/น้ำหนัก 1 กิโลกรัม และส่งสะดวกกับจุดบริการที่ครอบคลุมทั่วไทย นอกจากนี้ ยังเตรียมรองรับความต้องการคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ภายใต้แนวคิด งานช้างยังไหว หนักใหญ่แค่ไหนก็เรื่องหมู ๆ ซึ่งคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีความต้องการในการส่งเพิ่มมากขึ้น
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2566 ส่งด่วน EMS ยังคงเป็นบริการที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจสูงสุด ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงกลุ่มพัสดุหรือเอกสารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงสิ่งของที่มีรูปร่างพิเศษ สินค้าที่ต้องมีโซลูชัน ในการจัดการขนส่งต่างจากพัสดุทั่วไป และสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีปริมาณความต้องการส่งที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีอานิสงส์จากการซื้อขายสินค้าที่สะดวกในหลากหลายช่องทาง การเติบโตของตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ยานพาหนะ โดยกลุ่มสินค้าที่มีการฝากส่งสูงสุดได้แก่ รถจักรยานยนต์
ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการให้บริการส่งด่วนของใหญ่ EMS JUMBO ตลอดปียังพบว่าปัจจัยที่ผู้ใช้บริการให้ความไว้วางใจใช้โซลูชันดังกล่าวอย่างต่อเนื่องคือ
· ส่งด่วน ซึ่งแต่เดิมในการให้บริการนำจ่ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่จะใช้เวลามากกว่าสิ่งของทั่วไป เนื่องจากกระบวนการต่าง ๆ มีความแตกต่างทั้งในด้านการรับฝาก ระบบคัดแยก และการส่งของที่ต่างจากพัสดุทั่วไป แต่ในปัจจุบันมีระยะเวลาเพียง 2 – 4 วัน ในมาตรฐานที่เท่ากันทุกพื้นที่ ทำให้ทั้งการทำธุรกิจ การขนย้าย และการส่งของไปสถานที่ต่าง ๆ รวดเร็วกว่าเดิม
· ส่งทั่วถึง สำหรับการฝากส่งสิ่งของที่มีลักษณะพิเศษในปัจจุบันนั้นยังคงพบว่ามีข้อจำกัดในด้านสถานที่ เช่น พื้นที่ห่างไกล พื้นที่เกาะ ที่สินค้าอาจยังไม่ได้รับบริการหรือมีค่าบริการพิเศษ แต่ EMS JUMBO สามารถนำจ่ายได้ถึงทุกพื้นที่ด้วยราคาและมาตรฐานที่เท่ากัน ด้วยเครือข่าย ในการให้บริการ และระบบในการขนส่งตามความเหมาะสมกับขนาดและลักษณะสิ่งของที่แตกต่างกัน (Parcel Defined Logistics)
· ส่งคุ้มค่า กับราคาที่เฉลี่ยเพียง 6 บาท / กิโลกรัม และในช่วงน้ำหนัก 30 กิโลกรัมแรกที่มีราคา ไม่ถึง 200 บาท ซึ่งเป็นความคุ้มค่าสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการในการขายและส่งสินค้าขนาดใหญ่ให้กับลูกค้าได้ทุกพื้นที่ กลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไปทั้งผู้ที่ย้ายภูมิลำเนา ผู้ที่ต้องการส่งสินค้ากลับบ้าน ที่ไม่ต้องใช้บริการรถขนส่งที่มีราคาสูง อีกทั้งยังมีโปรโมชันพิเศษและการสะสมแต้ม Post Family ที่มอบส่วนลดและรางวัลต่าง ๆ ตลอดปีอีกด้วย
· ส่งสะดวก ผ่านจุดให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย โดยสามารถส่งสิ่งของได้น้ำหนักสูงสุด ต่อชิ้นถึง 200 กิโลกรัม ขนาดสินค้าถึง 600 เซนติเมตร มีการชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และสูงสุดถึง 200,000 บาท เมื่อซื้อประกันรับวงเงินชดใช้เพิ่ม นอกจากนี้ สำหรับสิ่งของน้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม สามารถฝากส่งด้วยบริการ Pick up service ได้ และสามารถนำจ่ายสินค้าถึงสถานที่หรือ Door to Door ได้ด้วย
“สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ไปรษณีย์ไทยคาดการณ์ว่า สิ่งของขนาดใหญ่จะมีปริมาณและความต้องการส่งเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงปกติ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยคาดว่าอานิสงส์สำคัญจะมาจากทั้งผู้ที่เดินทางย้ายกลับภูมิลำเนา ผู้ที่ซื้อของให้เป็นของขวัญประจำเทศกาลสำหรับครอบครัว ผู้ที่เดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะแต่ต้องการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ควบคู่ระหว่างเดินทาง รวมทั้งกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ และเพื่อเป็นการรองรับความต้องการเหล่านี้ไปรษณีย์ไทยจึงได้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ รถขนส่ง มาตรการในการดูแลสิ่งของ เพื่อรองรับปริมาณสิ่งของหนักและสิ่งของชิ้นใหญ่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งในช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ที่คาดว่าจะยังคงมี ดีมานด์ที่ต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน
พร้อมกันนี้ ยังคงมุ่งดำเนินงานภายใต้แนวคิด “งานช้างยังไหว หนักใหญ่แค่ไหนก็เรื่องหมู ๆ” เพื่อให้คนไทยมั่นใจถึงการส่งสิ่งของหนักและขนาดใหญ่ที่ไปรษณีย์ไทยมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง พร้อมขับเคลื่อนภาคธุรกิจ สังคม ไลฟ์สไตล์ให้มีความต่อเนื่องในทุก ๆ วัน” ดร.ดนันท์ กล่าวปิดท้าย
ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
เอ็กซ์ : @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post
ข่าวเด่น