ดาร์วิดพร๊อพเพอร์ตี้ยืนยันตลาดบ้านมือสองปี 67 ทรุดตามภาวะเศรษฐกิจ ชี้ปัญหาหนี้ครัวเรือนฉุดยอดขายลูกค้ากว่า 50% ไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ ชี้แนวโน้มตลาดปี 2568 น่าจะดีขึ้นหากรัฐต่อมาตรการด้านภาษี มั่นใจยังมีกลุ่มนักลงทุนสนใจซื้อทรัพย์ NPA แนะจัดโปรโมชั่นด้านราคากระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
นางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาร์วิด พร๊อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ที่ผ่านมา ทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสองยังตกอยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่อง สาเหตุหลัก ๆ มาจากปัจจัยด้านปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่กระทบต่อภาพรวมของธุรกิจต่าง ๆ ไม่ใช่เฉพาะอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น เห็นได้จากมีการปิดกิจการของภาคธุรกิจและทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการบริโภคของประชาชน และทำให้เกิดหนี้ครัวเรือนในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือการขอสินเชื่อมีความยากขึ้น เนื่องจากปัจจัยด้านปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาหนี้ครัวเรือน ทำให้สถาบันการเงินต่าง ๆ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและ กระทบต่อการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง
“จากภาพรวมของลูกค้าที่ใช้บริการซื้อบ้านมือสองกับบริษัทฯ ทำให้เห็นมุมด้านความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งมุมที่ลูกค้ามีปัญหาทางด้านหนี้สินและไม่สามารถยื่นกู้กับสถาบันการเงินได้ หรือบางรายยื่นแล้วไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ ที่ผ่านมาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อบ้านมือสองเกินกว่า 50% ไม่สามารถที่จะขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสิน อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านมือสองยังมีกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการซื้อด้วยเงินสด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุน เนื่องจากทรัพย์จากสถาบันการเงินส่วนใหญ่มีการจัดโปรโมชั่นและราคาคุ้มค่ากับการลงทุน” นางดรุณีกล่าว
อย่างไรก็ตามนางดรุณีให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 ว่าทั้งผู้ประกอบการบ้านใหม่และบ้านมือสองต่างมีความคาดหวังและต้องการให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวเร็วขึ้น และเชื่อว่าหากภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือด้านภาษีและค่าธรรมเนียมการโอนอย่างต่อเนื่อง จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจซื้อมากขึ้น เห็นได้จากในปีนี้ ภาครัฐได้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น หากมาตรการความช่วยเหลือดังกล่าวขยายไปในปี 2568 เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
นางดรุณีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผู้ประกอบการและผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินหรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ รวมทั้งบ้านมือสองต่าง ๆ จะต้องให้ความสำคัญกับการจัดโปรโมชั่นกันอย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงที่ผ่านมามีการลดราคาทรัพย์มากถึง 20-30% ทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นทรัพย์ NPA หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ หากมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อจะเป็นการสร้างโอกาสขายมากขึ้น
เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองยังอยู่ในความสนใจของกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะทรัพย์จากสถาบันการเงินที่มีโอกาสในการสร้างผลกำไร
“ในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มนักลงทุนเข้ามาสนใจซื้อทรัพย์จากสถาบันการเงินมากขึ้น เนื่องจากได้มีการจัดโปรโมชั่นด้านราคาที่น่าสนใจ เช่น อสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานอุตสาหกรรม โกดัง อาคารสำนักงานฯลฯ แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ดังกล่าวด้วยเงินสด เพราะส่วนใหญ่มองว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ผลตอบแทนที่ดีอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก นอกจากนี้แล้วยังมีกลุ่มนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดฯ บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ โดยเฉพาะในทำเลที่เป็นชุมชน ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพราะว่าทรัพย์ของสถาบันการเงินซึ่งมีราคาที่ดึงดูดการซื้อเพื่อการลงทุนได้เป็นอย่างดี” นางดรุณีกล่าว
ข่าวเด่น