เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คลังเผย ภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคเดือนพฤศจิกายน 2567


เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในหลายภูมิภาค อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทุกภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในหมวดยานยนต์ยังคงชะลอตัวในทุกภูมิภาค

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในหลายภูมิภาค อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทุกภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในหมวดยานยนต์ยังคงชะลอตัวในทุกภูมิภาค” โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อบริโภค รายได้เกษตรกร การท่องเที่ยว และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 13.7 และ 4.0 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -31.1 และ -4.9 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 59.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.6 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -26.2 และ -24.6 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 262.3 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานซ่อมรถยนต์ เคาะพ่นสีรถยนต์ในจังหวัดขอนแก่น เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 75.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 72.8 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 12.7 และ 12.3 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อบริโภค รายได้เกษตรกร การท่องเที่ยว และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 11.7 6.8 และ 17.4 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -36.0 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -19.0 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -31.3 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 24.7 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตไม้อัด ปาร์ติเกิลบอร์ด ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 79.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 81.3 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 5.2 และ 9.2 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อบริโภค รายได้เกษตรกร และการท่องเที่ยว อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 และ 4.4 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -23.2 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -0.1 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 57.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -14.0 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 11.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -30.4 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 86.4 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 4.6 และ 7.5 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อบริโภค รายได้เกษตรกร และการท่องเที่ยว อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 7.6 และ 3.8 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -28.4 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -9.4 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -31.1 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -21.7 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 96.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.3 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 และ 11.5 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อบริโภค รายได้เกษตรกร และการท่องเที่ยว อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 1.7 และ 5.0 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -30.7 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -11.5 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -19.5 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -35.6 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 96.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.3 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 และ 11.2 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว และรายได้เกษตรกรที่ขยายตัว อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในหมวดยานยนต์ยังคงชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่หดตัวที่ร้อยละ -10.6 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -41.9 และ -7.0 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 59.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -10.9 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -38.2 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.2 ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับเดียวกัน เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 24.5 และ 29.5 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่ขยายตัว และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนในหมวดยานยนต์ยังคงชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 12.6 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -10.7 -27.9 และ -11.7 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.0 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -15.5 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 9.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -46.5 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 96.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.3 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -3.1 แต่รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 3.1 ต่อปี

นอกจากนี้ ผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคของไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งสำรวจจากสำนักงานคลังจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกตามการขยายตัวของภาคเกษตรและอุตสาหกรรม เป็นสำคัญ สอดคล้องกับกำลังซื้อสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคประชาชนซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาคเช่นกัน ตามการขยายตัวของภาคเกษตรและภาคบริการ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคกลาง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ใน 6 เดือนข้างหน้าขยายตัวเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค อาทิ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคกลาง อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกโดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมปรากฏตามเอกสารแนบภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคประจำเดือนพฤศจิกายน 2567
 

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ธ.ค. 2567 เวลา : 13:29:21
21-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 21, 2025, 1:14 am