นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงมุมมองการลงทุนในปี 2567 ว่า ปัจจัยหลักที่จะกำหนดทิศทางตลาด ประกอบด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ แนวโน้มเงินเฟ้อ, เศรษฐกิจ และดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดจะให้น้ำหนักต่อการลงทุน ทั้งนี้หากพิจารณาจากมุมมอง Global Funds House ทั่วโลกจะเห็นได้ว่า แนวโน้มเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอตัวทำให้คาดการณ์ได้ว่า เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ช่วงแนวโน้มชะลอตัว (Soft Landing) มากกว่าภาวะถดถอยอย่างรุนแรง (Hard Landing) และคาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองทีมวิจัยหลักทรัพย์บัวหลวง
จากสถานการณ์ดังกล่าว BLS Top Funds รายงานอัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเจาะลึกกองทุนตัวท็อป แนะนำให้ผู้ลงทุนกระจายการลงทุน ด้วย “กองทุนรวม” ใน 4 ธีมหลัก ที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2567 ได้แก่
1. ธีม High Level หลังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับตัวลดลง หลังอยู่ในระดับสูงมายาวนาน ส่งผลให้ตราสารหนี้มีความน่าสนใจโดยเฉพาะระยะกลางถึงยาว ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้จะเข้ามาช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้อย่างดี เราแนะนำ ABGFIX-A กองทุนตราสารหนี้ระยะกลางที่ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกที่ให้อัตราผลตอบแทนน่าสนใจ เมื่อเทียบกับความเสี่ยง
2. ธีม High Quality เน้นลงทุนในตลาดหุ้นที่เติบโตดี มีคุณภาพ ราคาไม่แพง พร้อมมีปัจจัยสนับสนุน อย่างหุ้นอินเดีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม รวมถึงกลุ่ม Healthcare และ High Quality แนะนำกองทุน B-BHARATA ที่ลงทุนในหุ้นอินเดียขนาดใหญ่และกลาง เพราะได้รับประโยชน์จากเงินลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ และเป็นกองทุนที่มีผลงานโดดเด่นสม่ำเสมอ
3. ธีม High Turnaround แม้ตลาดหุ้นจีนและไทยให้ผลตอบแทนติดลบ 11-15% ในปี 2566 แต่ด้วย Valuation ที่ถูก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น ๆ ก็มีโอกาสที่จะพลิกฟื้นกลับมาในปีนี้ แนะนำกองทุน UOBSGC ที่ลงทุนในหุ้นจีนฮ่องกงและไต้หวันขนาดใหญ่ที่มีรายได้สม่ำเสมอ และเป็นเพียงกองทุนจีนกองเดียวที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในปี 2566
4. ธีม High Protect เน้นกระจายความเสี่ยงด้วย “ทองคำ” ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะเป็นขาลงมากกว่าขาขึ้น ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจ แนะนำกองทุน SCBGOLD ที่ลงทุนผ่าน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ผลงานโดดเด่น และค่าธรรมเนียมกองทุนอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับกลุ่ม
“กองทุนรวม ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะมาช่วยในเรื่องการกระจายพอร์ตในการลงทุนที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง และสามารถเลือกลงทุนในนโยบายและสินทรัพย์ได้อย่างหลากหลาย ตามนโยบายของกองทุนนั้น ๆ โดยมีผู้จัดการกองทุนภายใต้ บลจ. ต่าง ๆ ที่เป็นมืออาชีพมากประสบการณ์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ในปี 2566 ที่ผ่านมา กองทุนตัวท็อปแนะนำในรายงาน BLS Top Funds หลาย ๆ กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง เช่น กองทุน BCAP-USND100 โดยให้ผลตอบแทนที่ 48.36% เนื่องจากมีกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำที่ได้กระแส AI Boom ช่วยหนุน ทั้งนี้กองทุนตัวท็อปที่คัดเข้ามาอยู่ในรายงาน BLS Top Funds ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจะพิจารณาทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณควบคู่กันไปเพื่อให้ครอบคลุมในทุกมิติการลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง สะดวก ง่าย มั่นใจ ซื้อขายกองทุนได้จาก 17 บลจ. ชั้นนำ สามารถเข้าไปสมัครได้ที่ www.bualuang.co.th สอบถามเพิ่มเติมที่ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111
ข่าวเด่น