สำหรับธุรกิจในยุคนี้ การสร้างตัวตนผ่านสื่อออนไลน์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของการประกอบธุรกิจอย่างมาก ไม่ว่าจะด้วย Goals ของบริษัท ที่ต้องการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เพิ่ม Awareness ให้คนรับรู้การมีอยู่ของแบรนด์ สร้างช่องทางการขายสินค้า/บริการ หรือเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัทก็ตาม การใช้สื่อออนไลน์จะเป็นทางเชื่อมที่ทำให้ธุรกิจและลูกค้า Connect ถึงกันได้อย่างใกล้ชิด ตรงตามคอนเซปต์ของการทำ Digital Marketing ที่เพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจ จากการนำเสนอสินค้า/บริการในโลกออฟไลน์ ที่เผชิญกับการเข้าถึงลูกค้าอย่างจำกัด ไปสู่การลงหลักปักฐานธุรกิจในโลกออนไลน์ ที่ดันยอดขายในฐานตลาดขนาดใหญ่ที่เข้าถึงคนได้หลากหลายมากขึ้น ด้วยการสื่อสารกับลูกค้าผ่าน “เว็บไซต์” หน้าร้านเสมือน ที่การปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและลูกค้าจะเกิดขึ้นในที่แห่งนี้
ซึ่งโดยปกติแล้ว ในโลกออฟไลน์หรือโลกที่เราอาศัยกันในทางกายภาพ การเดินไปเจอร้านอาหาร พินิจดูเมนูและราคา หรือการเจอโฆษณาที่เป็นป้ายไวนิลระหว่างทางขับรถ เราเพียงแค่ใช้ตามอง ก็สามารถรับสารและมีปฏิสัมพันธ์ได้เลยทันที แต่เมื่อเป็นการสื่อสารในโลกออนไลน์ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาเป็นสื่อกลางเพื่อประมวลผลข้อความ เสียง ภาพ และวีดีโอ ก่อนจะส่งไปยังผู้รับสาร ซึ่งในช่วงยุคแรกของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตได้ คือคอมพิวเตอร์ ทำให้การสร้างเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่บทความ ข่าวสารต่างๆ การเกิดขึ้นของสื่อวีดีโอ เช่น YouTube สร้างร้านค้า หรือ E-Commerce ขึ้นมา การแสดงผลของข้อมูลนั้นจะสอดรับกับสัดส่วนหน้าจอของคอมพิวเตอร์ในตอนเริ่มต้น (อัตราส่วนการแสดงภาพผ่านหน้าจอ 4:3 หรือ 16:9 เป็นต้น) แต่เมื่อการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาถึงยุคของสมาร์ทโฟน ที่เกิด Mass Adoption กับคนทั่วโลก พฤติกรรมของผู้คนส่วนใหญ่จึงมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ชีวิตประจำวันกับสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เพราะการทำธุรกรรมต่างๆในตอนนี้ ได้ถูกยึดโยงกับระบบอินเตอร์เน็ต เราสามารถซื้อสินค้า โอนเงิน จ่ายค่าบัตรเครดิต ค้นหาข้อมูลความรู้ หรือสร้างตัวตนเป็นผู้ส่งสาร เช่น Content Creator ได้ด้วยตนเองผ่านเพียงแค่การใช้สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น ทำให้การออกแบบเว็บไซต์จำเป็นต้องสอดรับกับหน้าจอแสดงผลของสมาร์ทโฟนด้วย หากเว็บไซต์ของธุรกิจยังคงแสดงผลที่รองรับกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว เมื่อมีการเข้าเว็บไซต์ผ่านสมาร์ทโฟน และเผชิญเข้ากับหน้า Page ที่ไม่สอดรับกับหน้าจอ เว็บไซต์ต้องให้ลูกค้า Action เพิ่มเติมอย่างการซูมเข้าซูมออก เพื่ออ่านเนื้อหาหรือดูรายละเอียดสินค้า ก็อาจทำให้ลูกค้ากดออกจากเว็บไซต์ไปก่อนที่จะเกิดความสนใจในตัวสินค้า/บริการของธุรกิจเรา เนื่องจากเว็บไซต์ธุรกิจได้สร้างประสบการณ์ที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนไปแล้ว
Mobile-friendly สร้างมิตรภาพระหว่างธุรกิจกับลูกค้า
จากปัญหาข้างต้น จึงเป็นเหตุผลว่าการทำเว็บไซต์ให้ Mobile-friendly จึงมีความสำคัญอย่างมาก หากอยากให้ธุรกิจของเราบรรลุเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอด Reach, Impression, ROAS หรือบรรลุเป้ากิจกรรมทางการตลาดต่างๆ จำเป็นต้องมีการออกแบบเว็บไซต์ของธุรกิจเราให้สอดรับกับหน้าจอของสมาร์ทโฟน โดยหลักการพื้นฐานที่ต้องคำนึงในการทำ Mobile-friendly เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ามีดังนี้
1.ออกแบบเว็บไซต์ให้เรียบง่ายที่สุด
การออกแบบเว็บไซต์ให้เรียบง่ายในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการออกแบบในเชิงโทนสีให้มีสไตล์แบบ Minimal แต่อย่างใด แต่หมายถึงดีไซน์การใช้งานในเว็บไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนให้ตอบโจทย์เป้าหมายของลูกค้าให้เรียบง่ายที่สุด เช่น การคลิกดูรายละเอียดสินค้า แล้วสามารถหาเส้นทางกลับไปยัง Page ก่อนหน้าได้อย่างง่ายดาย ด้วยการวาง Breadcrumbs ให้เห็นง่ายๆ เป็นต้น (แถบเมนูนำทางในเว็บไซต์ ให้ผู้ใช้รู้ว่าหน้า Page ที่กำลังดูอยู่นี้ อยู่ใน Category ไหน หรือตรงส่วนใดบนเว็บไซต์) ซึ่งเจ้าของธุรกิจ หรือพนักงานฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น UX/UI Design ที่เป็นฝ่ายดูแลประสบการณ์ลูกค้า ต้องมีการร่างสิ่งที่เรียกว่า “Customer Journey” หรือเส้นทางที่ลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์แล้วจะมี Action กับข้างในจนไปถึง Stage ที่เรียกว่า Conversion (การตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการ) เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะสามารถเดินบนเส้นทางดังกล่าวโดยไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางจนไปถึงจุดหมาย เช่น ตรวจสอบว่าต้องคลิกเยอะไปไหมกว่าจะถึงตัวสินค้า ต้องวาง Layout ข้อมูลสินค้าไว้ตรงไหนให้ลูกค้าอ่านเจอง่ายๆ เป็นต้น
2.วัดประสิทธิภาพ ด้วยการทดสอบกับผู้ใช้งานตัวอย่าง
เมื่ออกแบบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว ควรมีการทดสอบเพื่อวัดผลประสิทธิภาพผ่านการ Launch ออกมาให้ผู้ใช้งานได้ลองทดสอบว่าติดปัญหาอะไรหรือไม่ ก่อนการปล่อยสู่ในระบบ Search Engine เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเราจะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
3.ใช้ Responsive Web Design
เป็นวิธีการออกแบบเว็บไซต์ให้แสดงผล หรือสามารถวาง Layout ได้ยืดหยุ่นไม่ว่าจะเปิดในคอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต หรือสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการสร้าง Layout ในแต่ละหน้าจอ หรือเสียเวลาสร้าง URLs เว็บไซต์แยกออกมาอีกโดเมนหนึ่งสำหรับการแสดงผลผ่านสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ที่อาจสร้างความสับสนให้กับลูกค้าได้ โดยสามารถศึกษาและใช้บริการ Responsive Web Design ได้ผ่าน Google Web Design (https://webdesigner.withgoogle.com/intl/th_th/)
การสร้างเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับลูกค้าด้วย Mobile-friendly ในยุคที่สมาร์ทโฟนเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะผู้คนต่างรับสารผ่านหน้าจอส่วนตัวกันเป็นหลัก หากสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่มีติดขัดให้กับลูกค้าได้ ธุรกิจของเราก็สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางเอาไว้ได้อย่างไร้สิ่งกีดขวางได้ตามไปด้วย
ข่าวเด่น