เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
SCB EIC วิเคราะห์ "ส่งออกไทยปี 2023 หดตัวเล็กน้อย และมีแนวโน้มฟื้นตัวรับปีมังกร ยังต้องจับตาความเสี่ยงในทะเลแดง"


การส่งออกไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนมากเพราะมีปัจจัยพิเศษ
 
มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในเดือน ธ.ค. 2023 อยู่ที่ 22,791.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น โดยขยายตัว 5 เดือนต่อเนื่องที่ 4.7%YOY (เทียบเดือน ธ.ค. 2022) และ 1.6%MOM_sa (เทียบเดือน พ.ย. 2023 แบบปรับฤดูกาล) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมูลค่าการส่งออกทองคำที่ขยายตัวมากถึง 787.6%YOY (หรือ Contribution to %YOY Growth = 1.7%) หากหักปัจจัยทองคำแล้ว การส่งออกของไทยจะขยายตัวเพียง 3%YOY และ 0.4%MOM_sa สะท้อนว่าสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการส่งออกสินค้าไทยยังไม่ชัดเจนนัก เพราะมีปัจจัยพิเศษรวมอยู่เช่นเดียวกับช่วงก่อนหน้า เช่น ปัจจัยฐานต่ำ การส่งออกทองคำ การส่งออกยานยนต์เพื่อใช้งานพิเศษ ซึ่งยังไม่สะท้อนภาวะการค้าระหว่างประเทศได้จริง ทั้งนี้ภาพรวมการส่งออกไทยในข้อมูลระบบศุลกากรปี 2023 มีมูลค่า 284.561.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งปีหดตัวเล็กน้อย -1.0%YOY

การส่งออกเดือนนี้ขยายตัวในหลายกลุ่มสินค้า ยกเว้นสินค้าเกษตร
 
ภาพรวมการส่งออกรายสินค้าปรับดีขึ้นทุกกลุ่ม นำโดย (1) สินค้าแร่และเชื้อเพลิงที่ขยายตัวแข็งแกร่ง 32.4% ต่อเนื่องจาก 42.4% ในเดือนก่อน (2) สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง 5% จาก 3.4% ในเดือนก่อน โดยเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นสินค้าหลักที่ขยายตัวดี (3) สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 3.6% ต่อเนื่องจาก 1.7% ในเดือนก่อน นำโดยการส่งออกน้ำตาลทราย และ (4) สินค้าเกษตรหดตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน -8.3% จาก 7.7% ในเดือนก่อน โดยเฉพาะผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งที่หดตัว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขณะที่การส่งออกข้าวเป็นสินค้าสำคัญที่ขยายตัว 
 
การส่งออกเดือนนี้หดตัวในบางตลาดสำคัญ โดยการส่งออกไปยุโรปเสี่ยงได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกบฏฮูตี 
 
ภาพรวมการส่งออกรายตลาดหดตัวในบางตลาด โดย (1) ตลาดยุโรป หดตัวแรงขึ้นที่ -8.4% หลังจากหดตัว -6.6% ในเดือนก่อน สำหรับการหดตัวในเดือนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์การโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในบริเวณทะเลแดงที่อาจส่งผลให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปยุโรปใช้เวลานานขึ้นและมีต้นทุนที่สูงขึ้นหรือไม่ เนื่องจากว่าการส่งออกไปยุโรปหดตัวติดต่อกันเป็นระยะเวลา 7 เดือนแล้วตามภาวะทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้คาดว่าผลจากการโจมตีดังกล่าวอาจชัดเจนขึ้นในเดือน ม.ค. 2024 (2) ตลาดสวิตเซอร์แลนด์ขยายตัว 567.6% จากการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (โดยเฉพาะทองคำ) ที่ขยายตัวมากถึง 3,487.2% (3) ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวชะลอลงเป็น 0.3% เทียบกับ 17.5% ในเดือนก่อน โดยมีปัจจัยกดดันจากการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่หดตัว -17.4% ขณะที่ (4) ตลาดจีน พลิกกลับมาขยายตัว 2% หลังจากหดตัว -3.9% 
 
ดุลการค้าระบบศุลกากรพลิกกลับมาเกินดุลในเดือนนี้ แต่ภาพรวมทั้งปีขาดดุลอยู่มาก
 
มูลค่าการนำเข้าสินค้าในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 21,818.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่ -3.1%YOY จากการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป และสินค้าเชื้อเพลิงที่หดตัว -7.3% -5.9% และ -2.2% ตามลำดับ ขณะที่การนำเข้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง และสินค้าทุนขยายตัว 5.8% และ 1% ตามลำดับ สำหรับดุลการค้าระบบศุลกากรในเดือนนี้กลับมาเกินดุล 972.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับการขาดดุล -2,399.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก่อน สำหรับภาพรวมทั้งปี 2023 ดุลการค้าขาดดุล -5,192.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

SCB EIC ประเมินมูลค่าการส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้ 
 
SCB EIC มองมูลค่าการส่งออกไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่องในปี 2024 ที่ 3.7% จากแรงสนับสนุนหลายด้าน ได้แก่ (1) ปริมาณการค้าโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แม้จะชะลอลงบ้างอยู่ที่ราว 2.5% (รูปที่ 1) (2) ภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างประเทศจะกลับมามีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกมากขึ้นในปี 2024 (รูปที่ 1) (3) ราคาสินค้าส่งออกที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง เช่น ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่ลดลงจากภัยแล้งและนโยบายควบคุมการส่งออกสินค้าในบางประเทศ (4) ความพยายามของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการผลักดันการส่งออกของไทยผ่านการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับศรีลังกา ซึ่งจะลงนามในช่วงต้นปีนื้ รวมทั้ง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งวางแผนเจรจาให้สำเร็จในปี 2024 

อย่างไรก็ตาม ห่วงโซ่อุปทานโลกอาจเผชิญความเสี่ยงอีกครั้งจาก 1) เหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งสินค้าของกบฏฮูตีในบริเวณทะเลแดง (คลองสุเอซ) โดยในเดือน ธ.ค. 2023 กลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วง 1980 – 1990 และมีฐานทัพที่ประเทศเยเมน ได้เข้าโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดง ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังคลองสุเอซ และนับเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญระหว่างยุโรปและเอเชีย มีปริมาณการขนส่งคิดเป็น 12% ของการขนส่งทางทะเลของโลก โดยกบฏฮูตีอ้างว่าการโจมตีนี้เป็นการแสดงการสนับสนุนกลุ่มฮามาสในเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 2023 การโจมตีของกบฏฮูตีส่งผลให้บริษัทขนส่งรายใหญ่หลายรายตัดสินใจหลีกเลี่ยงเส้นทางคลองสุเอซเพื่อขนส่งสินค้าระหว่างยุโรปและเอเชีย และเปลี่ยนไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปในประเทศแอฟริกาใต้แทน (รูปที่ 2) ทำให้ใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น 10 – 15 วัน นอกจากนี้ การโจมตีดังกล่าวยังส่งผลให้ผู้ส่งออกจากเอเชียต้องจ่ายค่าระวางเรือและค่าประกันภัยทางเรือเพิ่มสูงขึ้น

2) ความแห้งแล้งของคลองปานามา คลองปานามาเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิก และเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและสหรัฐฯ คิดเป็น 5% ของการขนส่งสินค้าทางทะเลของโลก ตั้งแต่ปี 2023 ปานามาเผชิญปัญหาแห้งแล้งและปริมาณน้ำฝนน้อย ทำให้ระดับน้ำในคลองลดลงมาก องค์การบริหารคลองปานามา (Panama canal authority) จึงจำเป็นต้องจำกัดจำนวนเรือสัญจรผ่านคลองปานามาในแต่ละวัน โดยในปัจจุบันจำกัดไว้ที่ 24 ลำต่อวัน ซึ่งน้อยกว่า 38 ลำต่อวันในสภาวะปกติค่อนข้างมาก การจำกัดจำนวนเรือดังกล่าวทำให้เรือขนส่งสินค้าจากเอเชียจะต้องจอดรอนานขึ้น เพื่อสัญจรผ่านคลองปานามาไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม หากเรือขนส่งสินค้าไม่อยากรอ อาจเลือกจ่ายเงินเพิ่มเพื่อขอลัดคิวและสัญจรผ่านคลองปานามาไปก่อนได้ หรืออาจเลือกเดินทางอ้อมทวีปอเมริกาใต้แทน (รูปที่ 2)

หากสถานการณ์ข้างต้นมีแนวโน้มทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงัก อาจกระทบการส่งออกไทยได้ โดยสถานการณ์ความแห้งแล้งของคลองปานามาจะทำให้เรือขนส่งสินค้าจากไทยที่ต้องการใช้เส้นทางดังกล่าวต้องใช้เวลาเดินทางนานขึ้น เนื่องจากต้องจอดรอเพื่อสัญจรผ่านคลองปานามา หรือมีต้นทุนขนส่งสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ประเมินว่าสินค้าจากประเทศทางเอเชียส่วนใหญ่ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะถูกส่งออกไปที่ท่าเรือในฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ การส่งออกสินค้าของไทยไปสหรัฐฯ จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเส้นทางคลองปานามาเป็นหลัก การส่งออกไทยจึงมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความแห้งแล้งของคลองปานามามากนัก

นอกจากนี้ ระยะเวลาขนส่งที่ยาวนานขึ้น อาจส่งผลต่อเนื่องทำให้เรือขนส่งสินค้าไม่เพียงพอต่อการขนส่งเส้นทางอื่น ๆ และทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเผชิญกับค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยค่าระวางเรือในเส้นทางไทย-ยุโรปของเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตและ 40 ฟุตเพิ่มขึ้นเป็น 3,200 และ 4,900 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ เพิ่มจากปี 2023 ถึง 3 เท่า (ข้อมูล ณ 24 มกราคม 2024) (รูปที่ 3) แม้ค่าระวางเรือจะยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดช่วงหลังโควิด-19 ที่ 8,200 ดอลลาร์สหรัฐ และ 14,300 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตและ 40 ฟุต ค่อนข้างมากก็ตาม 

สำหรับค่าระวางเรือในเส้นทางการขนส่งจากไทยไปสหรัฐฯ ก็ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังการโจมตีเช่นกัน 
โดยค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตและ 40 ฟุตในเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ฝั่งชายฝั่งตะวันตกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3,600 และ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตและ 40 ฟุตในเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ฝั่งชายฝั่งตะวันออกปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6,200 และ 6,900 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากระดับค่าระวางเรือในปี 2023 ที่ผ่านมาถึง 3 เท่าเช่นกัน (ข้อมูล ณ 24 มกราคม 2024) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตียังไม่มีสัญญาณว่าจะสิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้ จึงอาจต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อการส่งออกไทยในระยะต่อไป 

รูปที่ 1 : ในปี 2024 การส่งออกไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากการค้าโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
 
หมายเหตุ : การประเมินแนวโน้มการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของ SCB EIC ครอบคลุมราว 59% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดในปี 2022 ประกอบด้วย 1) Agri commodities ได้แก่ ยางพาราและสินค้าที่เกี่ยวข้อง น้ำตาล มันสำปะหลัง น้ำตาล และอาหารสัตว์ 2) อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ หมวดอาหารทะเล ไก่ เครื่องดื่ม ผลไม้ 3) สินค้าและอุปกรณ์ Electronics 4) ยานยนต์ ชิ้นส่วน และมอเตอร์ไซค์  5) Building material ได้แก่ เหล็กและปูนซีเมนต์ และ 6) หมวดพลังงาน ได้แก่ การกลั่น เคมีภัณฑ์ และพลาสติก
 
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, IMF WEO Oct 2023, Bloomberg, World Semiconductor Trade Statistics และ Trademap
 
รูปที่ 2 : ห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญความเสี่ยงใหม่จากการโจมตีเรือขนส่งสินค้าโดยกบฏฮูตีในบริเวณทะเลแดง และความแห้งแล้งของคลองปานามา
 
 
ที่มา : การการวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Portwatch และ Google
 
รูปที่ 3 : ค่าระวางเรือจากไทยไปยุโรปปรับเพิ่มขึ้นมากหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีของกบฏฮูตีในทะเลแดง
 
 
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ CEIC
 
 
บทวิเคราะห์โดย... https://www.scbeic.com/th/detail/product/trade-260124

ผู้เขียนบทวิเคราะห์
 
 
นางสาวณัฐณิชา สุขประวิทย์ (natnicha.sukprawit@scb.co.th) นักเศรษฐศาสตร์
 
 
นายวิชาญ กุลาตี (vishal.gulati@scb.co.th) นักเศรษฐศาสตร์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 ม.ค. 2567 เวลา : 12:08:45
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 9:20 pm