เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ผันผวน และมีความเสี่ยงทดสอบโลว์เดิม"


ผลประชุมเฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. เป็นปัจจัยลบต่อดัชนี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาลงสะท้อนมาระดับหนึ่งแล้ว ทำให้การปรับลง มีจุดติดตามบริเวณแนวรับ 1360 และจุดต่ำเดิม 1353 จุด แม้มีโอกาสลงทดสอบ แต่หากไม่ต่ำกว่า มีโอกาสฟื้นตัวได้อีกครั้ง ด้านกรอบบนอยู่ที่แนวต้าน 1370 และ 1380 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• Fed มีมติเอกฉันท์คง ดบ. ระยะสั้นที่ 5.25-5.50% ตามตลาดคาดและเป็นการคง ดบ. ติดต่อกันครั้งที่ 4 โดย Fed ส่งสัญญาณยังไม่มีแผนปรับลด ดบ. เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ 2% 

• ADP รายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ม.ค. เพิ่ม 1.07 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด ส่วนตัวเลขค่าจ้าง ม.ค. เพิ่มขึ้น 5.2%YoY
• หุ้นธนาคารในสหรัฐร่วงลง หลัง New York Community Bancorp ประกาศลดเงินปันผลหลังงบฯ ขาดทุน 185 ล้านเหรียญ จากการตั้งสำรองหนี้มากกว่าคาด เกิดความกังวลตลาดอสังหาฯ ในสหรัฐ

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สวนทางที่ตลาดคาดว่าจะลดลง

• ดัชนี PMI ภาคการผลิต ม.ค. ของจีนอยู่ที่ 49.2 หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และต่ำกว่า 50 บ่งชี้ภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว

• ธปท. ระบุ GDP ธ.ค. และ 4Q66 ขยายตัวชะลอลงจากอุปสงค์โลกฟื้นช้าและปัจจัยเชิงโครงสร้างฉุดรั้ง อาจปรับลดประมาณการ GDP ปี 66 จากเดิม 2.4% หลังการประชุม กนง. วันที่ 7 ก.พ. 67

• กกพ. ระบุแนวโน้มค่าไฟฟ้า 2 งวดสุดท้ายของปีนี้ จะไม่ต่ำกว่า 4.20 บ./หน่วย จากปัจจุบัน 4.18 บ./หน่วย หลังราคาเชื้อเพลิงผันผวน-หนี้ค้างชำระของ กฟผ. สูงเกือบแสนลบ.-ปริมาณเชื้อเพลิงจากอ่าวไทยและเมียนมาไม่เสถียร

• ก. คมนาคมคาดช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่าง 8-14 ก.พ. 67 จะมีปริมาณเที่ยวบินรวม 16,766 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,395 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 17%

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นโลกมีโมเมนตัมปรับขึ้นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการของ บจ. ทึ่คาดออกมาดี พร้อมกับคาดจะมีการปรับลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดลง หลังการประชุมเฟดล่าสุดยังไม่ส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นไทยคาดมีแรงกดดันจากความกังวลผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยที่อาจออกมาอ่อนแอและยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยคาดมีแรงกดดันจากความกังวลผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ที่อาจออกมาอ่อนแอและยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) นักลงทุนระยะสั้น (3-4 เดือน) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีในเทศกาลจ่ายเงินปันผลและขึ้น XD ในช่วง มี.ค.–พ.ค. นี้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 66 (หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว) เกิน 5% เลือก AP BCP KTB ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 67 เกิน 5% เลือก AH AP BCP KTB PTT TTB

2) นักลงทุนที่กังวลตลาดผันผวนเชิงลบแนะนำลงทุนในหุ้นตั้งรับซึ่งคาดจะสามารถชนะตลาดได้ โดยมี Beta ต่ำกว่า 1, ราคาหุ้นปรับตัว YTD ดีกว่า SET เลือก ADVANC AOT BDMS TISCO

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

ระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q66 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาด ได้แก่ BJC HMPRO GLOBAL CRC ZEN CPF BTG ONEE AWC SIRI ส่วนระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตร ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

DAILY TOP PICKS

BCH มองอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบหลัง สนง. ประกันสังคมเพิ่มโควตาผู้ประกันตนให้ รพ. ที่เข้าร่วมโครงการ คาดกำไรปกติ 4Q66 โต 12%YoY และปี 2567 คาดโต 18%YoY แข็งแกร่งสุดในกลุ่มการแพทย์และมี upside จากจำนวนผู้ประกันตน SC ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ valuation ยังอยู่ในระดับต่ำ

ADVANC 4Q66 คาดกำไรปกติที่ 7.4 พันลบ. แม้จะลดลง 1.9%QoQ จากผลกระทบของดีลคลื่น 700MHz และดีล 3BB รวมทั้งไฮซีซั่นของ คชจ. การตลาด แต่จะเติบโต 9.6%YoY จากการฟื้นตัวของรายได้ การแข่งขันที่น้อยลงในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB และการควบคุมต้นทุน
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ก.พ. 2567 เวลา : 11:05:22
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 8:45 pm