หลักทรัพย์บัวหลวง สุดปลื้ม “บริการจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ” ปี 2566 สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนโดดเด่นสูงสุดถึง 6.21% สูงเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับกลุ่มกองทุนผสม เสี่ยงสูงในตลาด ชูจุดเด่นจัดพอร์ตด้วยระบบการลงทุนคุณภาพที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพ คอยดูแลและกำหนดมุมมองการลงทุน พร้อมปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างใกล้ชิด
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับความผันผวน จากความไม่แน่นอนในแนวโน้มเศรษฐกิจ, เงินเฟ้อ และทิศทางดอกเบี้ย ซึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของเรา ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้คำแนะนำการปรับพอร์ตลงทุนด้วยการคัดเลือกกองทุนตัวท็อป จากรายงาน BLS Top Funds เข้ามาในพอร์ตอย่างเหมาะสมภายใต้ภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยในปี 2566 “บริการจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ” หรือ BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation เครื่องมือช่วยสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน ด้วยระบบการลงทุนคุณภาพที่ออกแบบมาตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา Pain Point การลงทุนแบบดั้งเดิม สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับ ผู้ลงทุนได้อย่างโดดเด่นสูงสุดถึง 6.21% สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูง ในตลาด
ปัจจุบันพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติของหลักทรัพย์บัวหลวง มีให้เลือกลงทุนทั้งหมด 3 ประเภท 6 พอร์ตการลงทุน ประกอบด้วย 1. ประเภทการลงทุนแบบคาดหวังผลตอบแทน เน้นกระจายการลงทุนตามระดับความเสี่ยงของตนเอง ผ่าน 3 พอร์ตการลงทุน โดยในปี 2566 สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น คือ
พอร์ตการลงทุนเสี่ยงต่ำ Conservative Asset Allocation (CAA) ในปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนที่ระดับ 2.43% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงต่ำที่มีผลตอบแทน -0.77% กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 80% และกองทุนหุ้น, สินทรัพย์ทางเลือก 20%
พอร์ตการลงทุนเสี่ยงปานกลาง Moderate Asset Allocation (MAA) ในปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนที่ระดับ 4.96% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงปานกลางที่มีผลตอบแทน -1.48% กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 40% และกองทุนหุ้น สินทรัพย์ทางเลือก 60%
พอร์ตการลงทุนเสี่ยงสูง Aggressive Asset Allocation (AAA) ในปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนที่ระดับ 6.21%, มีผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงที่มีผลตอบแทน -7.42% กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 30% กองทุนหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก 70%
2. ประเภทการลงทุนแบบรับกระแสเงินสดระหว่างทาง เน้นกระจายการลงทุนในกองทุนจ่ายเงินปันผล ด้วย พอร์ตการลงทุน Dividend Income Asset Allocation (DAA) ในปีที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ สะท้อนได้จากการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 11 ครั้ง เป็นการจ่ายเงินปันผลเกือบทุกเดือน คิดเป็นผลตอบแทนหลังหักภาษีเงินปันผลอยู่ที่ระดับ 3.62% กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง, มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลคาดหวัง 3-4% ต่อปี คาดหวังผลตอบแทนรวม 6-7% ต่อปี โดยจะเน้นลงทุนกองทุนตราสารหนี้ 30% กองทุนหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก 70% ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ด้วยการกระจายการลงทุนไปตามภูมิภาคต่าง ๆ
3. ประเภทการลงทุนเน้นปลอดภัย เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ผ่าน 2 พอร์ตการลงทุน คือ พอร์ตการลงทุน Saving Package (SP) ในปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนได้ระดับ 1.74% และนับตั้งแต่ จัดตั้งพอร์ตวันที่ 16 พ.ย. 2565 ไม่มีวันไหนให้ผลตอบแทนติดลบ กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการพักเงินและบริหารสภาพคล่อง คาดหวังผลตอบแทนที่ 1% ต่อปี และพอร์ตการลงทุนDynamic Income Package (DIP) ในปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนได้ระดับ 1.78% กลยุทธ์นี้เน้นกระจายลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
นายบรรณรงค์ กล่าวต่อว่า ข้อดีของการจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติกับหลักทรัพย์บัวหลวง คือ 1. ทีมจัดการกองทุนที่ใช้การจัดพอร์ตด้วยระบบการลงทุน Black-Litterman Model โดยจะคำนวณสัดส่วนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพในหลากหลายสินทรัพย์บนผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยมีทีมวิจัยหลักทรัพย์บัวหลวง มืออาชีพมากประสบการณ์คอยดูแลพร้อมกำหนดมุมมองการลงทุน และมีทีมงาน Product คอยคัดเลือกกองทุนรวม ตัวท็อปผลงานโดดเด่นจาก 17 บลจ. ชั้นนำ เพื่อเข้าลงทุนในพอร์ต
2. มีการปรับพอร์ตลงทุนให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและส่งคำซื้อขายกองทุนรวมให้แบบอัตโนมัติ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมาย โดยผู้ลงทุนไม่ต้องเสียเวลาในการส่งคำสั่งเองหลายครั้ง และไม่มีค่าธรรมเนียมในการบริหารพอร์ตเหมือนกับไปซื้อกองทุนเองปกติ 3. ผู้ลงทุนสามารถติดตามพอร์ตการลงทุนของตัวเองได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Streaming Fund+ ได้ทุกที่ทุกเวลา ที่สำคัญยังได้รับรายงานประจำเดือนที่ส่งตรงถึงมือผู้ลงทุน เพื่อไม่ให้พลาดทุกจังหวะการลงทุน
“ในช่วงที่ตลาดผันผวน ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของเราได้ติดตามสถานการณ์และให้แนะนำการลงทุนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการกระจายการลงทุนไปในหลากหลายสินทรัพย์ (Asset Allocation) ในอัตราส่วนที่เหมาะสมสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน โดยเฉพาะการจัดสรรเงินลงทุนแบบระยะยาวตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปที่จะช่วยลดโอกาสในการขาดทุนจากการลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายบรรณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถสมัครบริการ BLS Top Funds Portfolio Auto Asset Allocation เครื่องมือช่วยสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนผ่านกองทุนรวมตัวท็อปที่คัดสรรมาอย่างดี ด้วยระบบการลงทุนคุณภาพที่มีการปรับพอร์ตให้อัตโนมัติสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการพอร์ต ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท สำหรับลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถสมัครบริการได้ผ่านแอปพลิเคชัน Wealth CONNEX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111
ข่าวเด่น