บมจ.คิวทีซีจี “QTCG” ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินหน้าเสนอขาย IPO จำนวน 180 ล้านหุ้นเร็วๆ นี้ จ่อลงสนามเทรด ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาส 1/2567 หวังระดมทุนเพิ่มศักยภาพการรับงาน สู่ช่องทางขยายโอกาสต่อยอดธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำให้บริการติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร แบบครบวงจรระดับต้นๆ ของประเทศไทย
นายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท คิวทีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ QTCG เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ. คิวทีซีจี ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญ ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ล่าสุดได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่า ที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายในไตรมาส 1/2567
ทั้งนี้ QTCG ดำเนินธุรกิจด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E) อย่างครบวงจร ประกอบด้วย 1) ระบบไฟฟ้าและการสื่อสาร 2) ระบบปรับอากาศและการระบายอากาศ 3) ระบบสุขาภิบาลและระบบประปา และ 4) ระบบป้องกันไฟภายในอาคาร ด้วยประสบการณ์ กว่า 22 ปี ทำให้บริษัทฯ มีทีมวิศวกรที่มากด้วยประสบการณ์ และมีศักยภาพให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมภายในอาคารทุกระบบอย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบผู้รับเหมาหลัก (Main contractor) และในรูปแบบผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) ซึ่งรูปแบบการให้บริการของบริษัทฯ สามารถตอบสนอง ต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการดำเนินงาน ติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มอาคาร กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม เป็นต้น ดังนั้นเชื่อว่าด้วยศักยภาพและจุดเด่นในการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านวิศวกรรมงานระบบครบวงจรของไทย และการมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม จะสามารถสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 600 ล้านหุ้น แบ่งเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 210 ล้านบาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล”
ข่าวเด่น