เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เคลื่อนไหวในกรอบ 1394-1410 จุด"



คาด SET เคลื่อนไหวระหว่างกรอบ โดยกรอบบนคาดยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1405 และ 1410 จุด ตามลำดับ จากสัญญาณเทคนิคระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ overbought ขณะที่กรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1394 จุด ใช้เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่า เริ่มเป็นสัญญาณลบต่อภาพการปรับฐานของดัชนี

ประเด็นสำคัญ

• นายกฯ ระบุนำรายงานความเห็น ป.ป.ช. เข้าที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตสัปดาห์หน้า รวมทั้งข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลรวม 8 ข้อ เพื่อให้นำไปประกอบการตัดสินใจในการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตหรือเกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของรัฐหรือประชาชน

• กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คง ดบ. นโยบายที่ 2.50 % พร้อมปรับลดประมาณการ GDP ปี 67 เหลือ 2.5-3% จากส่งออกและการผลิตชะลอตัว เนื่องจากอุปสงค์โลกและเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า

• ก.. ท่องเที่ยวฯ ระบุจำนวน นทท. ต่างชาติมาไทย 29 ม.ค.-4 ก.พ.67 กว่า 7.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 5.89%WoW โดย 5 อันดับแรกของ นทท. ต่างชาติ ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย

• กกร. ระบุ ศก.ฟื้นตัวได้แต่อ่อนแอ แนะนำรัฐบาลเร่งสกัดสินค้านำเข้ามาตีตลาดไทยฉุดศักยภาพแข่งขัน คาดการณ์ GDP ปี 2567 เติบโต 2.8-3.3% ส่งออก 2-3% เงินเฟ้อ 0.7-1.2%

• อิสราเอลปฏิเสธคำเสนอจากกลุ่มฮามาสที่จะนำไปสู่การหยุดยิงอย่างถาวร โดยระบุการต่อสู้จะยังคงต่อเนื่องไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ทำให้ราคาน้ำมันวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7-0.8%

• นีล แคชแครี ปธ. Fed มินนีแอโพลิสคาด Fed จะลด ดบ. ลง 2-3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เอเดรียนา คุกเลอร์ สมาชิก Fed ระบุ Fed ต้องมีข้อมูลเพิ่มเพื่อสร้างความเชื่อมั่นก่อนที่จะพิจารณาปรับลด ดบ. 

• Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร NYCB ลงสู่อันดับขยะ หลังล้มเหลวในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเงินทุนและทำให้ผู้ฝากเงินขาดความเชื่อมั่น

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET อยู่ในภาวะเปราะบางและการฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด หลังคาดเงินเฟ้อจีน ม.ค. มีแนวโน้มหดตัว ขณะที่ กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายวานนี้แม้ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. จะหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4  อีกทั้งดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐ จีนและอียู จะชะลอตัวลง นอกจากนั้นผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยอาจออกมาอ่อนแอและยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ช่วงสั้น SET อยู่ในภาวะเปราะบางและการฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด กลยุทธ์ลงทุนจึงคงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) นักลงทุนที่กังวลตลาดผันผวนเชิงลบแนะนำลงทุนในหุ้นตั้งรับซึ่งคาดจะสามารถชนะตลาดได้ โดยมี Beta ต่ำกว่า 1, ราคาหุ้นปรับตัว YTD ดีกว่า SET เลือก ADVANC AOT BDMS TISCO

2) นักลงทุนระยะสั้น (3-4 เดือน) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีในเทศกาลจ่ายเงินปันผลและขึ้น XD ในช่วง มี.ค.–พ.ค. นี้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 66 (หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว) เกิน 5% เลือก AP BCP KTB ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 67 เกิน 5% เลือก AH AP BCP KTB PTT TTB

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

ระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q66 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาด ได้แก่ BJC HMPRO GLOBAL ZEN AU CPF BTG AWC SIRI ส่วนระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตร ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

DAILY TOP PICKS

CRC มองราคาหุ้นที่ปรับลง 18%YTD สะท้อนความกังวลผลประกอบการ 4Q66 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาดไปมากแล้ว โดย 4Q66 เป็นไตรมาสที่กำไรดีสุดของปี (+QoQ, -YoY) อีกทั้งจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มฯ จากโครงการ E-receipt ไม่เกิน 5 หมื่นบ. ช่วง 1 ม.ค. -15 ก.พ. 67

ADVANC หุ้น Defensive คาด Div. Yield 2H66 ที่ 2.1% และ FY2567 ที่ 4% ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการหลักเติบโต 13-15% EBITDA เติบโต 14-16% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการรวมงบการเงินของ TTTBB และ JASIF เข้ามาเต็มปี ซึ่งการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะส่งผลดีในระยะยาว
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ก.พ. 2567 เวลา : 11:20:06
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 6:33 pm