คริปโตเคอเรนซี่
Scoop : "โลกเสมือนจริง" ใกล้เข้ามาแล้ว หลังการมาของ Apple Vision Pro เปิดประตูสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคต


 

หลังจากสาวก Tech Gadgets เฝ้านวัตกรรมแห่งอนาคตกันมาหลายเดือน ล่าสุดทาง Apple ก็ได้เปิดจำหน่าย Vision Pro อย่างเป็นทางการในสหรัฐเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมียอดสั่งซื้อออกไปแล้วกว่า 200,000 ชิ้น ในเวลาไม่กี่วัน แสดงถึงความตื่นเต้นของพัฒนาการ Virtual Reality หรือโลกเสมือนจริง ที่เริ่มให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างจากที่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ได้ผลิต Gadget ออกมารองรับโลกในอนาคต และความหวังอันแรงกล้าว่าคอนเซปต์ที่เราเห็นในหนังแนวโลกอนาคตอาจกลายเป็นจริงได้ในอีกไม่กี่ทศวรรษนี้
 
หากยังจำกันได้ ในปี 2021 กระแสของเรื่อง Metaverse หรือสังคมเสมือนที่เชื่อมคนทั่วโลก เข้ามาอยู่ด้วยกันในโลกของ Virtual Reality ได้ถือกำเนิดขึ้นสู่ระดับสาธารณะเป็นครั้งแรกของโลก ด้วยแรงส่งของบริษัท Meta (หรือ Facebook) ที่ประกาศตัวจากการเปลี่ยนชื่อบริษัทว่าจะเริ่มมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีโลกเสมือนโดยเฉพาะ และได้คาดการณ์ว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีโลกเสมือนจะเข้าถึงผู้คนได้ถึงประมาณ 1 พันล้านคน และกลายเป็นโลกใบใหม่อีกใบที่จะเกิดขึ้นมาด้วยฝีมือของมนุษย์
 
Concept ของโลกเสมือนดังกล่าว เป็น Talk of the Town ที่ทุกคนต่างพูดถึง และได้จุดไฟแห่งความหวังในวงการเทคโนโลยี และบรรดาสาวก Tech ในการรอคอยการพัฒนาต่างๆ ที่จะสามารถประกอบร่างกลายเป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ของ Virtual Reality ได้ในที่สุด ฉะนั้น นอกจากโปรเจคแพลตฟอร์มโลกเสมือนของ The Sandbox และ Decentraland แล้ว การที่ Apple ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นแว่น AR Headset ที่ชื่อว่า “Vision Pro” ก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวเข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นไปอีกขั้นว่า Virtual Reality ไม่ใช่จินตนาการที่เกินจริง และเราอาจได้เห็นโลกเสมือนเหมือนหนัง Sci-fi อย่าง Ready Player One
 
 
 
 
Channel หรือช่องทางที่เป็นสื่อกลางระหว่างคนกับโลกเสมือนจริง ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่ประสาทสัมผัสของคนเราจับต้องได้ โดยเฉพาะการใช้ตาดูใช้หูฟัง ซึ่ง Apple Vision Pro มีลักษณะเป็นแว่น Headset ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล micro OLED มีความละเอียดประมาณ 4K 3800×3000 พิกเซล หรือ 7.5 ล้านพิกเซล 2 ข้างรวมกันเป็น 23 ล้านพิกเซล มีความละเอียดของเม็ดพิกเซลสูงถึง 3400 ppi ที่สูงกว่าจอสมาร์ทโฟนกว่า 10-15 เท่า มีเลนส์กล้อง 3 มิติเพื่อรับรู้โลกภายนอก ไมโครโฟน 6 ตัว เซ็นเซอร์ 5 จุด เพื่อจับความเคลื่อนไหวของผู้ใช้ และมีระบบเสียงรอบทิศทางขั้นสูง ให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานตามการนิยามของซีอีโอ Apple อย่าง Tim Cook ว่าแว่น AR ตัวนี้เป็นคอมพิวเตอร์แบบ Spatial หรือการประมวลผลที่ผสานโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
 
จะเกิดอะไรใน Virtual Reality หลังจากนี้ 
 
แน่นอนว่าหลังจากนี้ เราอาจเห็นการพัฒนาและการใช้งาน Virtual Reality ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Channel การเข้าถึงโลกเสมือนอย่างการมาของ Vision Pro ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว และ Apple ก็ถือได้ว่าเป็นบริษัทผู้นำของวงการเทคโนโลยี ที่เมื่อ Apple ได้พัฒนาเทคโนโลยีอะไรขึ้นมา ก็จะสร้างแรงบันดาลใจ และการต่อยอดในวงการบริษัทสาย Tech อย่างมากมาย เช่น การผลิตสมาร์ทโฟนที่มี Features ใกล้เคียงกัน หรือมี Features บางอย่างที่พัฒนาไปมากกว่า Apple มีการผลิตซอฟแวร์ Applications ต่างๆ มารองรับ เนื่องจากมีฐานอย่าง Hardware ที่เกิดขึ้นจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Vision Pro ที่เป็น Headset ก็เหมือนกัน ที่เมื่อเกิดขึ้นจริงแล้ว เราก็อาจได้เห็นแพลตฟอร์มต่างๆ หรือนวัตกรรมที่ต่อยอดต่างๆ ที่ออกแบบมาให้ Virtual Reality มีการพัฒนาที่เข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น
 
นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวเมื่อพัฒนาจนเริ่มเสถียรดีแล้ว ระดับราคาของอุปกรณ์อาจปรับลงมาในจุดที่เหมาะสม ซึ่งมีผลต่อการเข้าถึงของผู้ใช้ทั่วไปที่ครอบคลุมกว่าในตอนนี้ (ราคาของ  Vision Pro เริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 125,405 บาท) และอาจทำให้ Concept ของโลก Metaverse เริ่มเป็นจริงขึ้นมา จากการแข่งขันกันระหว่างบริษัทเทคโนโลยี ที่ส่งผลดีต่อการพัฒนานวัตกรรม เพื่อถือครองอำนาจในโลกเสมือนจริงใบใหม่

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ก.พ. 2567 เวลา : 19:40:12
05-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 5, 2024, 2:43 am