เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "การฟื้นตัวยังถูกจำกัด"


SET รีบาวด์ด้วยภาวะ oversold ทางเทคนิคในระยะสั้น ซึ่งมีความต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตาม ตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน และสัญญาณเทคนิคในภาพรวมยังเป็นลบ ทำให้การฟื้นตัวมีกรอบบนที่จำกัดบริเวณแนวต้าน 1395 และ 1400 จุด ซึ่งต้องขึ้นทะลุผ่านก่อนถึงจะกลับมาเป็นสัญญาณบวก ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1380 และ 1370 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• ยอดค้าปลีก ม.ค. ของสหรัฐลดลง 0.8%MoM แย่กว่าคาด ทำให้ตลาดคาดหวังว่า Fed อาจกลับมาพิจารณาลด ดบ. ในไม่ช้านี้

• GDP 4Q66 ของอังกฤษหดตัว 0.3%YoY เป็นการหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส บ่งชี้ ศก. อังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

• GDP 4Q66 ของญี่ปุ่นหดตัว 0.4%YoY เป็นการหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส บ่งชี้ ศก. ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ทำให้สูญเสียสถานะ ปท. ที่มีระบบ ศก. ใหญ่อันดับ 3 ของโลกให้กับเยอรมนี

• IEA รายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือน ก.พ. ระบุว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัวเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ลดลงเกือบ 50% จากที่มีการขยายตัว 2.3 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566

• การประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตวานนี้ยังไม่มีข้อสรุป โดยล่าสุดตั้งกรรมการดูข้อกฎหมายกฤษฎีกาและ ป.ป.ช. ศึกษาข้อเสนอแนะและความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและ ป.ป.ช. กรอบเวลาภายใน 30 วัน ก่อนนำกลับมาเสนอ คกก. ชุดใหญ่อีกครั้งเพื่อเสนอ ครม.

• ก. คลังเร่งแก้ปัญหาสินค้านำเข้าจากจีนตีตลาด เตรียมเก็บ VAT นำเข้าสินค้าทุกรายการ ไม่ลดมูลค่าที่ได้ยกเว้นอากร พร้อมหาวิธีจัดเก็บที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการรั่วไหลและจัดเก็บได้จริง

• สทท. ระบุดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในไทย 4Q66 บ่งชี้ความกังวลปัจจัยเสี่ยง ศก. เข้าสู่ภาวะเงินฝืด อาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทยใน 1Q67 ปชช. มีแนวโน้มลดการใช้จ่ายน้อยลงกว่าช่วงก่อนวิกฤติโควิด

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่ และอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยที่จะทยอยออกมา นอกจากนั้นความเสี่ยงเงินเฟ้อของสหรัฐอาจลดลงน้อยกว่าคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ช่วงสั้น SET แกว่งตัวในกรอบจำกัด หลังขาดปัจจัยหนุนและรอดูผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ.ไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงคงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) นักลงทุนที่กังวลตลาดผันผวนเชิงลบแนะนำลงทุนในหุ้นตั้งรับซึ่งคาดจะสามารถชนะตลาดได้ โดยมี Beta ต่ำกว่า 1, ราคาหุ้นปรับตัว YTD ดีกว่า SET เลือก ADVANC AOT BDMS TISCO

2) นักลงทุนระยะสั้น (3-4 เดือน) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีในเทศกาลจ่ายเงินปันผลและขึ้น XD ในช่วง มี.ค.–พ.ค. นี้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 66 (หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว) เกิน 5% เลือก AP BCP KTB ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 67 เกิน 5% เลือก AH AP BCP KTB PTT TTB

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

ระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q66 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาด ได้แก่ BJC HMPRO ZEN CPF BTG AU AWC SIRI

DAILY TOP PICKS

PTT 4Q66 กำไรสุทธิดีกว่าคาดจากกำไรพิเศษ กำไรจากการดำเนินงานสุทธิ 3.32 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 26%YoY และ 6%QoQ คาดกำไร 1Q67 ดีขึ้น QoQ จาก GRM ที่สูงขึ้นและผลกระทบเชิงลบจากขาดทุนสินค้าคงเหลือลดลง มองธุรกิจที่หลากหลายจะช่วยสร้างเสถียรภาพการทำกำไรระยะยาว

GULF 4Q66 กำไรสุทธิแข็งแกร่งจากกำไร Fx และส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้น ขณะที่ 1Q67 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมฟื้นตัวหลังพ้นช่วงโลว์ซีซั่น และหน่วยผลิตไฟฟ้าอีกหนึ่งหน่วยของ Gulf PD (IPP) จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน มี.ค. 67
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ก.พ. 2567 เวลา : 11:50:26
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 5:44 pm