+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดคาดการณ์ว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ในทะเลแดง ซึ่งล่าสุดกลุ่มกบฎฮูตีประกาศยกระดับการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงด้วยการใช้อาวุธใต้น้ำ โดยจะโจมตีเรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลและพันธมิตร เช่น สหรัฐฯ และอังกฤษ เพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
-/+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ก.พ. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 442.9 ล้านบาร์เรล แต่ยังคงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นท่ามกลางการหยุดการทำงานของโรงกลั่นขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ดี โรงกลั่นหลายแห่งมีแผนจะกลับมาผลิตอีกครั้งในเร็วๆ นี้
- โรงกลั่นน้ำมันไวทิงของ BP ในรัฐอินเดียนา ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในเขต Midwest ของสหรัฐฯ และมีกำลังการผลิตที่ 435,000 บาร์เรลต่อวัน จะกลับมาดำเนินการผลิตเต็มรูปแบบในเดือน มี.ค. 67 หลังจากที่มีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 67
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังเวียดนามนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือน ม.ค. 67 เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 0.21 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม จีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินในเดือน มี.ค. 67 เพิ่มขึ้น 4.3% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับประมาณ 0.73 ล้านตัน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน มี.ค. 67 เพิ่มขึ้น 17.8% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1.1 ล้านตัน นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันดีเซลในเอเชียคาดว่าจะอยู่ในระดับคงที่หรือปรับลดลงเล็กน้อยในเดือน มี.ค. 67
ข่าวเด่น