กองทุนรวม
"KAsset" จับมือพันธมิตรระดับโลก "Lombard Odier" มุ่งเป็นผู้นำการลงทุนที่ยั่งยืน ตั้งเป้า AUM 30,000 ล้านบาท ใน 4 ปี



 
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (KAsset) ประกาศความร่วมมือด้านการลงทุนเพื่อความยั่งยืนกับลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะพันธมิตรที่ปรึกษาที่จะช่วยในการกำหนดยุทธศาสตร์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Investment) ตามหลักมาตรฐานสากล เสริมความแข็งแกร่งให้ KAsset ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนรวมของไทย และผลักดันอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยเติบโตทัดเทียมทั่วโลก โดยตั้งเป้าออกผลิตภัณฑ์กองทุนรวมด้านความยั่งยืนร่วมกับลอมบาร์ด โอเดียร์ เพิ่มเติมรวมมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท ในอีก 4 ปีข้างหน้า

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถาบันการเงินมีบทบาทในการเป็นต้นน้ำของระบบเศรษฐกิจ ธนาคารกสิกรไทยจึงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน (Bank of Sustainability) อย่างต่อเนื่อง และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมทั้งมีการดำเนินการที่ต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมในการผลักดันการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง รวมทั้งมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ธนาคารกสิกรไทยจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนระหว่าง KAsset และ Lombard Odier ที่ต่างก็ให้ความสำคัญในด้านความยั่งยืน และเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน นำไปสู่การยกระดับการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนไปอีกขั้น เพื่อส่งมอบผลตอบแทนที่เติบโตในระยะยาวแก่นักลงทุน และสร้างโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน


 
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset เปิดเผยว่า KAsset ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืนมาเป็นเวลากว่า 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 โดยนำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาปรับใช้ในกระบวนการลงทุน โดยเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์จนถึงการสร้างพอร์ตการลงทุน และเป็นบลจ.แรกของไทยที่เข้าร่วมลงนาม UN-supported Principles for Responsible Investment (UNPRI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (United Nations) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการปฏิบัติตามหลักการลงทุนอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 อีกทั้งกองทุน ESG ของ KAsset ยังเป็นกองทุนแรกในอุตสาหกรรมที่ยื่นขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) โดยในปัจจุบัน KAsset มีกองทุนที่ได้รับความเห็นชอบให้เป็น SRI Fund จำนวนทั้งสิ้น 6 กองทุน 
 
ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ลงทุนให้ความสำคัญต่อการลงทุนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาและเติบโตของทั้งเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคตมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของ KAsset ในการมุ่งพัฒนากระบวนการและผลิตภัณฑ์ให้รองรับและสนับสนุนต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดังนั้น KAsset จึงให้ความสำคัญกับการวางทิศทางยุทธศาสตร์การลงทุนอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่การออกกองทุนรวม SRI Fund (Sustainable and Responsible Investing Fund) ที่มีนโยบายลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญที่มุ่งเน้นความยั่งยืนทางด้าน ESG ตามหลักสากล ซึ่งนายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “SRI Fund ของ KAsset ที่มีอยู่ 6 กองทุนนั้น มี Market Share อยู่ที่ 79% ของทั้งอุตสาหกรรม ด้วยมูลค่ากว่า 20,993 ล้านบาท ซึ่งครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในไทย 

 
แต่อย่างไรก็ตามกองทุนเพื่อความยั่งยืนนี้ก็ยังเป็นตลาดที่ยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับจำนวนกองทุน SRI Fund ทั้งหมดที่มีในประเทศไทย และในตลาดโลกก็ดี การลงทุนที่สนับสนุนด้านความยั่งยืนในช่วง 2 ปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 14% ของทั้งโลก ส่วนในไทยมีเพียง 1.3% แต่ในขณะเดียวกัน อีก 2 ปีข้างหน้า สัดส่วนของทั้งโลกจะมีการเติบโตขึ้นอีกประมาณ 21% เนื่องจากการเติบโตของเรื่อง Sustainability เป็นในลักษณะ S Curve หรือเป็นในทิศทางที่ค่อย ๆ มีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วง ที่ผ่านมานี้ การเติบโตของประเด็นความยั่งยืนได้เข้าสู่ช่วง Massive Scale แล้ว ฉะนั้นน้ำหนักของสัดส่วนการลงทุนใน Sustainability จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และจะกิน Portion ที่มากขึ้น ซึ่งในไทยยังมีช่องว่างของโอกาสการลงทุนอีกมาก อีกทั้งปัจจุบันก็ได้เริ่มเห็นว่าการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเริ่มให้ความสำคัญกับด้านความยั่งยืนมากขึ้น นับเป็นการเปิดโอกาสให้มีการลงทุนในด้านนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ Scale การลงทุนก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น หากมีบลจ. เข้าไปลงทุนในธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับด้านนี้ ก็นับเป็นการสนับสนุนให้ Momentum การลงทุนเพื่อความยั่งยืนขยายใหญ่ขึ้น”

 
ทางด้าน นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต CFA Chief Investment Officer บลจ.กสิกรไทย กล่าวถึงเส้นทางการประกอบธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของบริษัทว่า KAsset ได้ดำเนินเรื่องของการลงทุนเพื่อความยั่งยืนมากว่า 10 ปีแล้ว โดยมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2556 บริษัทได้มีการจัดทำ ESG Policy ขึ้นมา ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นนโยบายภายในบริษัท แต่ก็ได้มีการนำนโยบายดังกล่าวไปปรับใช้ในขั้นตอนกระบวนการลงทุนในทุก Asset Class และต่อมาในปี 2560 ทาง ก.ล.ต. ให้ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศรับหลักปฏิบัติ Investment Governance Code (I Code)  เป็นหลักการที่มีการนำ ESG มาปรับใช้ในกระบวนการลงทุน ทำให้เรื่องของ ESG เริ่มเป็นที่แพร่หลาย และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ทัดเทียมกับ International Standard มากขึ้น ทำให้ในปี 2564 KAsset เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ร่วมลงนามเป็น Signatory กับ UN-supported Principle for Responsible Investment (UNPRI) อันเป็นหลักการธรรมาภิบาลการลงทุนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 

แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทเห็นถึงความสำคัญของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั้งในระดับเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ในฐานะผู้ลงทุนสถาบันจึงเข้ามามีส่วนร่วมช่วยให้โลกดีขึ้น ที่นอกจากนี้จะปฏิบัติตามหลักการของ UNPRI แล้ว KAsset ก็ได้ร่วมเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ Task Force on Climate-Related Financial Disclosures (TCFD) อย่างเป็นทางการ โดยมีการจัดทำรายงานเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวที่มีผลต่อพอร์ตการลงทุนของบริษัทเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยเช่นกัน 
 
 
“ทั้ง 2 อย่างนี้นับเป็นการตอกย้ำว่า KAsset มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำและปรับปรุงการลงทุนเพื่อความยั่งยืนให้ทัดเทียมกับ International Standard มากขึ้น” นางสาวธิดาศิริ กล่าวปิดท้าย

 
ในส่วนของการร่วมมือด้านการลงทุนเพื่อความยั่งยืนกับทาง Lombard Odier นายสุรเดช ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายทางธุรกิจว่า “ทาง Lombard ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่อยู่บนแกนของ Sustainability อย่างมาก ซึ่งกองทุนที่ทาง Lombard นำเสนอให้กับลูกค้า ส่วนใหญ่ก็เป็นกองทุนที่ลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงเอาส่วนการวิเคราะห์การลงทุนเข้ามา Training แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันกับ KAsset โดยกองทุน K-TNZ-ThaiESG ที่ได้มีการ Launch ออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทได้ใช้หลักการ องค์ความรู้ และเทคโนโลยีของ Lombard ที่ศึกษาและได้ทำไว้ในยุโรป”

 
กองทุน K-TNZ-ThaiESG เป็นกองทุนเพื่อความยั่งยืน ที่มี Lombard Odier เป็นที่ปรึกษาให้ โดยร่วมสนับสนุนการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ด้วยการเลือกเข้าไปลงทุนหุ้นใน SET100 กับบริษัทที่มีการบริการจัดการและมีเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกที่ดี เช่นบริษัทดังกล่าวมีการปล่อยก๊าซน้อยกว่าดัชนีรวม 30-40% เป็นต้น ซึ่งกองทุนนี้มีส่วนช่วยลด Carbon Footprint ไปแล้วเทียบกับดัชนีชี้วัดได้เกือบถึง 50% โดยกองทุนนี้จะให้ผลตอบแทนล้อไปกับดัชนี

มร.อูแบร์ เคลเลอร์ Senior Managing Partner, Lombard Odier เปิดเผยว่า การเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ยังถือเป็นเรื่องที่ตลาดประเมินไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืนนั้น ต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำธุรกิจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาโมเดลทางธุรกิจ การผลิต ไปจนถึงการส่งมอบสินค้าและบริการสู่ผู้บริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดโอกาสการลงทุนอีกมหาศาล เราในฐานะผู้บริหารการจัดการลงทุน มุ่งสร้างความไว้วางใจเพื่อช่วยนำทางให้นักลงทุน และสร้างความเข้าใจให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างการลงทุนภายใต้เศรษฐกิจ Net Zero อีกทั้งเรายังมีความพร้อมในการเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน ทั้งเรื่องการแสวงหาโอกาสการลงทุนที่เกิดขึ้นตามเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ตามปรัชญาการให้บริการของ Lombard Odier ที่มุ่งเน้น “การคิดใหม่” ในการจัดสรรเงินลงทุน

 
มร.วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner, Asia Regional Head and Global Head of Strategic Alliances, Lombard Odier เปิดเผยว่า ความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนระหว่าง Lombard Odier และ KAsset จะเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่าง Lombard Odier กับ KBank ที่มีมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี และด้วยประสบการณ์ด้านการลงทุนที่สั่งสมมากว่า 227 ปีของ Lombard Odier เราจึงพร้อมส่งมอบองค์ความรู้และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการลงทุนที่ยั่งยืนให้ KAsset สามารถพัฒนากระบวนการและผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างเต็มศักยภาพ อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าสถาบันการเงินและผู้ลงทุนมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนในประเด็นความยั่งยืน เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถต่อยอดการให้คำแนะนำ และแสวงหาโอกาสการลงทุนที่ยั่งยืนให้กับ KAsset เพื่อส่งมอบผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนไทยต่อไป

“แนวทางการลงทุนที่ได้ยึดโยงเอาระบบเศรษกิจแบบ CLIC (Circular, Lean, Inclusive, Clean) หรือการทำธุรกิจที่มุ่งมั่นถึงความยั่งยืนโดยรวม มีความสำคัญเนื่องจาก ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ทั่วโลกจำเป็นต้องเปลี่ยนวิถีทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งก็จะมาพร้อมกับธุรกิจใหม่ๆที่มีการดำเนินงานล้อไปกับเรื่องของความยั่งยืน ในแง่ของภาคการลงทุนถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดการกองทุนที่ต้องคัดเลือกหาบริษัทที่จะสามารถอยู่คู่กับโลกที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ได้ ซึ่งด้วยทาง Lombard Odier ที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกมากว่า 227 ปี การรร่วมมือกันในครั้งนี้ก็นับเป็นโอกาสที่จะนำพาผู้ลงทุนไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน ซึ่ง KAsset มีแผนที่จะเปิดกองทุน Sustainability ร่วมกับทาง Lombard Odier อีกหลายกองทุน และคาดว่า ขนาดมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนในอนาคตอีก 3-4 ปี อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท” นายสุรเดช กล่าวทิ้งท้าย

LastUpdate 27/02/2567 19:36:52 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 2:20 am