เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "สัญญาณดูอ่อนแรง"


 

SET ลงมาเคลื่อนไหวบริเวณกรอบล่าง 1380 จุดสำหรับรูปแบบการเคลื่อนไหว sideways ในกรอบระหว่าง 1380-1400 จุด อย่างไรก็ตาม สัญญาณฟื้นตัวยังดูอ่อนแรง และวันนี้มีแนวรับแถว 1376 จุด หากยืนได้ ยังมีโอกาสฟื้นตัวอยู่ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1394 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านก่อนถึงจะเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนกรณีต่ำกว่า 1376 จุด จะเป็นลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1368 จุด

ประเด็นสำคัญ

• GDP 4Q66 ประมาณการครั้งที่ 2 ของสหรัฐขยายตัว 3.2% แต่ต่ำกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ 3.3%

• ซูซาน คอลลินส์ ปธ. Fed สาขาบอสตัน ระบุ Fed ควรประเมินข้อมูล ศก. ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่า Fed จะรับประกันด้านเสถียรภาพราคาและอัตราการจ้างงานสูงสุด

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 4.2 ล้านบาร์เรล มากกกว่าคาด ขณะที่ OPEC+ เตรียมขยายการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจไปจนถึง 2Q67 เพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด และอาจขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้

• หน่วยงานกำกับดูแลของจีนกำลังดำเนินการลดขนาดกลยุทธ์การเทรดเชิงปริมาณ โดยให้หยุดรับเงินทุนก้อนใหม่และหยุดเทรดผ่านระบบ DMA ที่ส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดหุ้นจีนและจะช่วยป้องกันการเทขายอย่างรุนแรง

• ธปท. ออกเกณฑ์ส่งเสริมการร่วมลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ กำหนดระยะเวลา 15 ปี โดยให้จัดตั้งกิจการร่วมทุนฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค. 67

• REIC ระบุ 27 จว. มีสต็อกที่อยู่อาศัยปี 2566 เหลือขายกว่า 3 แสนหน่วย เพิ่มขึ้น 9% มูลค่า 1.55 ล้านลบ. เพิ่มขึ้น 20.9% โดยทำเลใน กทม. และปริมณฑลไม่เกิน 3 ล้านลบ. ยังคงน่ากังวล

• วันนี้ ตลท. และโบรคเกอร์ หารือมาตรการคุมหุ้นร้อน-ชอร์ตเซล ด้านบอร์ดฯ เตรียมอนุมัติใช้ Auction แทน P ยกเลิกซิลลิ่ง-ฟลอร์

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แต่มีโอกาสได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งและเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว รวมถึงธุรกรรมการชอร์ตเซลที่คาดจะมีแนวโน้มกดดันบรรยากาศลงทุนน้อยลงและมีโอกาสลุ้น Fund Flow ไหลกลับ ขณะที่ในประเทศเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการทยอยประกาศผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทย ซึ่งคาดยังมีแนวโน้มอ่อนแอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ช่วงสั้น SET แกว่งตัวในกรอบ หลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายประกาศงบ 4Q66 ของ บจ.ไทย แต่ยังมีโอกาสลุ้น Fund Flow ไหลกลับหนุนบรรยากาศลงทุน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลัก ดังนี้

1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาในไทยฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองมากนัก เลือก AOT MINT

2) หุ้นเก็งกำไรหาก SET ฟื้นตัวทะลุ 1400 จุด ซึ่งคาดจะมีแรงซื้อกลับจากทำ Cover Short และ Fund Flow ไหลกลับ ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง เลือก AOT KBANK KTB PTT

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

DAILY TOP PICKS

BTG 4Q66 ขาดทุนปกติลดลง QoQ ส่วน 1Q67 คาดผลประกอบการฟื้นตัวจากต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ส่งออกไก่เนื้อเพิ่ม ราคาสัตว์บกใน ปท. ปรับขึ้น ส่วน 2H67 จะดียิ่งขึ้นหลังอุปทานสุกรลดลงและต้นทุนอาหารสัตว์ลงต่อ ปรับเพิ่มกำไรปี 2567 สู่ 1.5 พันลบ. ปรับคำแนะนำสู่ OUTPERFORM

SECURE 4Q66 คาดผลการดำเนินงาน +158%QoQ, +17%YoY เป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี หลังลูกค้าเร่งส่งมอบงาน คาดปี 2566 กำไร 89 ลบ. โต 62%YoY และคาดปี 2567 โต 17%YoY มองเป็นหุ้นที่ยังเติบโตตามความต้องการด้าน Cybersecurity และราคาหุ้นยังไม่สะท้อนการฟื้นตัวของกำไร
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 00 0000 เวลา : 10:39:48
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 4:53 pm