บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยพักตัว หลังสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานใหม่สูงเกินคาด 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ด้านเอสแอนด์พี โกลบอล ออกมาเตือนหากเศรษฐกิจจีนยังอ่อนแอ มีหั่นความน่าเชื่อถือรัฐบาลแน่ จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์จากราคายางพาราทำ New High รอบ 3 ปี ได้แก่ STA-TRUBB-NER -TEGH
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสพักตัว หลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการจ้างงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาด 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่มีการคาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และเอสแอนด์พี โกลบอลได้ออกมาเตือนว่าแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนอาจถูกปรับลดลง หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ หรือยังต้องอาศัยการแทรกแซงของรัฐบาลเข้ามาด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,350-1,400 จุด
ทั้งนี้ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ การเร่งพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2567 และวันที่ 29 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย ส่วนปัจจัยต่างประเทศในวันนี้ (12 มี.ค.) ทางสหรัฐรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. วันที่ 13 มี.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 14 มี.ค.สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค. วันที่ 15 มี.ค. จีน รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. สหรัฐ รายงานราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ. ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมี.ค. วันที่ 19-20 มี.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจากราคายางพาราทำ New High รอบ 3 ปี ซึ่งได้อานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่ STA, TRUBB, NER และ TEGH
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่าในส่วนสัปดาห์นี้ตลาดจับตาประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ CPI และ PPI อย่างไรก็ตามเรามองภาพรวมราคาน้ำมันดิบและราคาอาหารสดยังทรงตัวระดับสูง ทำให้ CPI อาจปรับตัวขึ้น
หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุมาจากดัชนีฝ่ายจัดซื้อและการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐหดตัวต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 52.6 จุดและ 140k ตามลำดับ ประกอบกับดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 103.73 ซึ่งปัจจุบันทรงตัวที่ระดับ 102.79 ดอลลาร์ที่อ่อนค่าหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น ขณะที่กองทุน SPDR เทขาย -6.34 ตัน
ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐมีแนวโน้มทรงตัวเหนือระดับ 3% สอดคล้องกับตลาดที่คาดการณ์ว่าเฟดอาจเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยจาก 1H67 เป็น 2H67 อีกทั้งราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาสูงในสัปดาห์ก่อนหน้าจึงอาจมีแรงขายทำกำไร ระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,200$/oz คำแนะนำ ทยอยเทขายทำกำไร
ข่าวเด่น