นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการมาตรการส่งเสริมงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยจะช่วยยกระดับทุนทางวัฒนธรรมและส่งเสริมอุตสาหกรรมทัศนศิลป์ของประเทศ และเพิ่มรายได้จากการใช้จ่ายในประเทศและจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาคธุรกิจงานศิลปะและรถยนต์โบราณ (Classic Cars) และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจในประเทศไทย นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการดำเนินการให้บรรลุวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี (Thailand Vision) ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ทำเนียบรัฐบาล ที่มีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว โดยส่งเสริม Soft Power ของไทย เพื่อเป็นจุดขายของประเทศไทยโดยเฉพาะในด้านงานศิลปะ โดยประกอบด้วย 4 มาตรการ ดังต่อไปนี้
1. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ
เพื่อส่งเสริมตลาดการซื้อขายศิลปะ ซึ่งจะทำให้ศิลปินในประเทศไทยผลิตงานศิลปะเพิ่มมากขึ้น และส่งเสริมการจัดแสดงงานศิลปะในประเทศไทย อันจะทำให้การท่องเที่ยวขยายตัวมากขึ้น จึงเสนอให้ผู้มีเงินได้แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้องานศิลปะด้านจิตรกรรมหรือประติมากรรมในราชอาณาจักร ในลักษณะการยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้องานศิลปะดังกล่าวมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาทในปีภาษี สำหรับการซื้องานศิลปะตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569
2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ศิลปินในการสร้างงานศิลปะ และส่งเสริมงานศิลปะของศิลปินไทย จึงเห็นควรบรรเทาภาระภาษีให้แก่ศิลปินในประเทศไทย โดยเสนอให้ผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากรที่เป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระประณีตศิลปกรรม สามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 60 เป็นการถาวร โดยไม่กำหนดประเภทศิลปิน
3. มาตรการลดหรือยกเว้นอากรขาเข้างานศิลปะ
เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนในการผลิตงานศิลปะ และลดต้นทุนในการนำเข้างานศิลปะเพื่อนำมาจัดแสดงงานศิลปะระดับประเทศและระดับนานาชาติในประเทศไทย จึงเสนอให้มีการลดหรือยกเว้นอัตราอากรสำหรับงานศิลปะ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ
4. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมรถยนต์โบราณ (Classic Cars)
เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนการจัดกิจกรรมสำหรับรถยนต์โบราณ เช่น การประกวดรถยนต์โบราณ การจัดแสดงนิทรรศการรถยนต์โบราณ การจัดขบวนคาราวานรถยนต์โบราณ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยทุกระดับ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตหรือบูรณะ (Restoration) รถยนต์โบราณในประเทศ เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศไทย จึงเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากสินค้ารถยนต์โบราณ (Classic Cars) และมีการยกเว้นอากรขาเข้าสินค้ารถยนต์โบราณเฉพาะรถยนต์นั่งเท่านั้น (ไม่รวมถึงรถจักรยานยนต์และรถอื่น ๆ)
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการศึกษารายละเอียด ผลประโยชน์ และผลกระทบ ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ การคลัง และสังคม รวมทั้งข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละมาตรการอย่างรอบคอบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ข่าวเด่น