เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "Upside ยังถูกจำกัด"


 

คาด SET ยังมี upside จำกัด บริเวณแนวต้าน 1390 จุด และบริเวณแนวต้านสำคัญ 1400 จุด ซึ่งการปรับขึ้นทดสอบก่อนหน้าในหลายครั้ง ดัชนียังไม่สามารถขึ้นทะลุผ่านได้ ดังนั้นให้ใช้เป็นจุดติดตาม หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณบวกต่อในภาพรวม ด้านแนวรับอยู่ที่ 1375 และ 1370 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• วานนี้ยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท Rosneft ในรัสเซีย ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมัน 17.1 ล้านตันต่อปี เป็นการโจมตีต่อเนื่องวันที่ 2 ก่อนที่การเลือกตั้ง ปธน. รัสเซียจะเริ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9 แสนบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล

• สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ภายใน 6 เดือน มิฉะนั้น TikTok จะถูกแบนจากสหรัฐ

• ก.ล.ต. ของอินเดีย (Sebi) ระบุมีสัญญาณบ่งชี้ภาวะฟองสบู่ในหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) พร้อมเสริมจะออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทในกลุ่ม SME

• ธปท. ออกมาตรการแก้ปัญหาหนี้เรื้อรัง เน้นช่วยลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลประเภทวงเงินหมุนเวียน ปิดจบหนี้ภายใน 5 ปี ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% เริ่ม 1 เม.ย. นี้

• ส.อ.ท. ระบุผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.พ. ลดลงจาก ม.ค. จากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ปชช. ระมัดระวังการใช้จ่าย ด้านการส่งออกยังชะลอตัว ศก. ปท. คู่ค้ายังอ่อนแอ โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น

• วานนี้ราชกิจจาฯ ประกาศ กทม.จ่ายหนี้ BTS ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 2.3 หมื่น ลบ. มีผล 13 มี.ค. 67

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังผันผวนในกรอบ โดยยังมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1400 จุด หลังในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ชี้นำ ขณะที่มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของต่างประเทศที่จะประกาศสัปดาห์นี้ อาทิ ยอดค้าปลีกของสหรัฐ จะยังอ่อนแอ ขณะที่ GDP 4Q66 ของญี่ปุ่น ออกมาแย่กว่าตลาดคาด และดัชนี CPI (เงินเฟ้อ) ก.พ. ของสหรัฐ ออกมาสูงกว่าตลาดคาด สร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

ช่วงสั้น SET ยังผันผวนในกรอบ หลังยังไร้ปัจจัยชี้นำใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรจากแรงซื้อกลับจากทำ Cover Short และ Fund Flow ไหลกลับ อีกทั้ง ตลท. มีแผนออกมาตรการคุม Short Sales มากขึ้น ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง เลือก AOT KBANK BBL PTT

2) หุ้นเก็งกำไรขนาดเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยกำไรปี 2567 ยังเติบโตดี YoY และมองราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก AU ONEE SECURE KLINIQ HTC

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA หลังราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

DAILY TOP PICKS

TOP 1Q67 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของ GRM โดยได้แรงหนุนจาก crack spread ที่สูงขึ้นของน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตา อีกทั้งคาดมีผลขาดทุนสต๊อกระดับต่ำ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PBV ที่ 0.7 เท่า (-1.4 SD) ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.5 เท่าในปีที่เกิดสถานการณ์โควิดอยู่เล็กน้อย

GFPT มองผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ปี 2567 จากการส่งออกไก่เนื้อที่มีมาร์จิ้นสูงได้มากขึ้น และราคาไก่เนื้อในประเทศที่ดีขึ้นท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการ 1Q67 เติบโต YoY และ QoQ ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในกลุ่มอาหาร
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 มี.ค. 2567 เวลา : 11:15:16
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 11:23 am