เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ดูอ่อนแรง การฟื้นตัวจำกัด"


SET สัญญาณเทคนิคดูอ่อนแรง และเป็นลบ ทำให้การฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่กรอบบนบริเวณแนวต้าน 1380 และ 1390 จุด ตามลำดับ ขณะที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1370 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด

ประเด็นสำคัญ

• นักเศรษฐศาสตร์คาด PBOC จะอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบธนาคารเพิ่มอีกในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้น ศก. และเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทาง ศก. ที่กำหนดไว้ราว 5% สำหรับปีนี้

• API ระบุสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 9.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มี.ค. ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่ นลท. รอดูการรายงานสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจาก EIA ในวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะลดลง 7 แสนบาร์เรล

• Apple จัดส่ง iPhone ในจีน ก.พ. ราว 2.4 ล้านเครื่อง ลดลง 33%YoY และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ตามข้อมูลจาก China Academy of Information and Communications Technology

• วุฒิสภามีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2567 ในวาระที่ 3 ถัดจากนี้จะจัดส่งร่างดังกล่าวให้ ครม. นำร่าง พ.ร.บ. ขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศมีผลใช้บังคับต่อไป

• พาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออก ก.พ. 67 ที่ 23,384 ล้านเหรียญ ขยายตัว 3.6%YoY โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ส่วนการนำเข้า ก.พ. ที่ 23,938 ล้านเหรียญ ขยายตัว 3.2%YoY ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 554 ล้านเหรียญ

• ส.อ.ท. ระบุ ก.พ. 67 ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 88,720 คัน เพิ่มขึ้น 0.22%YoY จากการส่งออกรถ PPV และรถ HEV ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 133,690 คัน ลดลง 19.28%YoY ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากยอดขายใน ปท. ลดลง

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว หลังเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวในภาคการผลิตและการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลบวกให้ดัชนีภาคอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากเดือน ม.ค. ที่ปรับตัวลดลง 2.9%YoY ขณะที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้เป็นไปตามตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนดีขึ้นและเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทะลุ US$85 /bbl จากกังวลเศรษฐกิจถดถอยลดลงหนุนอุปสงค์ ด้านอุปทานได้ผลบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ Trading PTTEP (ราคาน้ำมันระยะยาวเพิ่มทุก US$1 /bbl  บวกต่อราคาเป้าหมาย 5 บาทต่อหุ้น) และ TOP (ค่าการกลั่นและกำไรสต๊อก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)

2) หุ้นเก็งกำไรจากภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มกำลังจะปรับตัวลง เลือก กลุ่มไฟแนนซ์ (TIDLOR) กลุ่มสาธารณูปโภค (GULF) กลุ่มขนส่ง (AOT)

3) หุ้นเก็งกำไรเชิงเทคนิคหลังราคาหุ้น Breakout Downtrend และเริ่มเห็น NVDR พลิกกลับมา Net Buy ในเดือน มี.ค. เลือก IVL GULF PTTGC GPSC

DAILY TOP PICKS

CPALL 1Q67TD ยอดขายสาขาเดิมโตเด่นสุดในกลุ่ม คาดหนุนให้ 1Q67 กำไรจะเติบโต YoY ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง 17.4%YoY สู่ระดับ 2.1 หมื่นลบ. หนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นของ CPAXT ซึ่งยังไม่ได้รวม upside จากมาตรการกระตุ้น ศก. ใหม่ๆ

GFPT มองผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ปี 2567 จากการส่งออกไก่เนื้อที่มีมาร์จิ้นสูงได้มากขึ้น และราคาไก่เนื้อในประเทศที่ดีขึ้นท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการ 1Q67 เติบโต YoY และ QoQ ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในกลุ่มอาหาร
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 มี.ค. 2567 เวลา : 11:48:36
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 9:35 am