เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เปิดด้าน Upside ปรับขึ้นได้ต่อ"


คาด SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ หลังขึ้นทะลุบริเวณแนวต้านสำคัญ 1400 จุดได้ สร้างสัญญาณบวกทางเทคนิคต่อการเปิดด้าน upside หลังก่อนหน้านี้แกว่งในกรอบมาระยะหนึ่ง ด้านแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1410 และ 1420 จุด ตามลำดับ ขณะที่กรอบล่างอยู่ที่ 1390 และ 1385 จุด ตามลำดับ ไม่ต่ำกว่า ยังเป็นสัญญาณที่ดีอยู่

ประเด็นสำคัญ

• ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อม มี.ค. ของสหรัฐลดลงสู่ 88.5 ต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 55 และต่ำกว่า 98 ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในรอบ 50 ปีเป็นเดือนที่ 27 จากความกังวลเงินเฟ้อ และการขาดแคลนแรงงาน

• จีนระบุยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้า มี.ค. เพิ่มขึ้น 10.5%YoY หลังผู้ผลิตรถยนต์ใน ปท. ลดราคา ขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวม 1Q67 เพิ่มขึ้น 14.7%YoY เติบโตชะลอตัวลงมากสุดนับตั้งแต่ 2Q66

• เกาหลีใต้เผยแผนลงทุนมูลค่า 6.94 พันล้านเหรียญ ในด้าน AI ภายในปี 2570 หนุนการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานใน ปท. ซึ่งเป็นความพยายามในการรักษาตำแหน่งผู้นำระดับโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย

• ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุ 1-7 เม.ย. 67 มีจำนวน นทท. ต่างชาติลดลง 4.12%WoW สัปดาห์นี้คาด นทท. ต่างชาติจะเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดต่อเนื่องวันอีดิลฟิฏร์ในประเทศมุสลิม

• ครม. มอบหมายให้ ก. คลังศึกษารายละเอียดการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ซึ่งรวมถึงการเปิดคาสิโนถูกกฎหมายในไทย และให้นำกลับมาเสนอต่อ ครม. ภายใน 30 วัน ซึ่งเป็น Sentiment บวกระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก

• ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้น ศก. ผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์รวม 5 มาตรการ คาดจะช่วยกระตุ้น GDP ปีนี้อีกราว 1.7-1.8% ทั้งนี้เรามองหุ้นอสังหาฯ ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดในกลุ่มที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ลบ. คือ AP และ SPALI

กลยุทธ์การลงทุน
 
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสฟื้นตัว จากความคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคการผลิตของจีนและสหรัฐ ขณะที่ในประเทศติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. และการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งหากมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และ/หรือ ได้ข้อสรุปแจกเงินดิจิทัลที่ชัดเจนขึ้น คาดจะเป็นปัจจัยกระตุ้นบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้  กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน
 
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด เนื่องจากรอผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. และการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย. นี้  ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้ 

1) หุ้นเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทะลุ US$85/bbl หลังกังวลอุปทานตึงตัวจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่หวังเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนจะหนุนอุปสงค์ โดยผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ Trading PTTEP (ราคาน้ำมันระยะยาวเพิ่มทุก US$1 /bbl  บวกต่อราคาเป้าหมาย 5 บาทต่อหุ้น) และ TOP (ค่าการกลั่นและกำไรสต๊อก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม) อย่างไรก็ดี หากราคาน้ำมันปรับขึ้นเกิน US$95/bbl แนะนำให้ “ทยอยขายทำกำไร”

2) หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่จะดีขึ้นตามผลฤดูกาล เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ไทย ซึ่งปีนี้รัฐบาลประกาศจัด 21 วัน เริ่ม 1-21 เม.ย.นี้ (จากข้อมูลในอดีต 13 ปีทีผ่านมาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีในเดือน เม.ย. เฉลี่ยราว 2.5%MoM) เลือก AOT ERW MINT CPALL

3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก GFPT KCE SCGP IVL

4) หุ้นเก็งกำไรจากภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะอยู่ในช่วงขาลง เลือก กลุ่มไฟแนนซ์ (TIDLOR) กลุ่มสาธารณูปโภค (GULF)

DAILY TOP PICKS

GPSC ช่วงสั้นมองได้ Sentiment บวกจากราคาก๊าซในยุโรปและ Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับตัวลง ขณะที่เชื่อว่าปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ GPSC ได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยแรงกดดันที่ลดน้อยลงจากต้นทุนพลังงานและกำไรที่ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าทั่วไป จะหนุนให้ปี 2567 กำไรปกติจเติบโตแข็งแกร่ง 49%YoY

CPALL มองราคาหุ้นจะปรับตัว outperform จากแรงหนุนกำไร 1Q67 คาดจะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ และ SSS ของธุรกิจ CVS มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งใน 2Q67 จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและอากาศร้อน อีกทั้งยังมี upside จากมาตรการ digital wallet และการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 เม.ย. 2567 เวลา : 11:02:26
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 8:00 am