กองทุนรวม
หลักทรัพย์บัวหลวง จัดสัมมนาสุดพิเศษร่วมกับ HSVM ผู้ออก ETF ชั้นนำในฮ่องกง แนะสร้างโอกาสลงทุนผ่าน DR "HK01" และ "HKCE01" รับตลาดจีนฮ่องกงฟื้นตัว


หลักทรัพย์บัวหลวง จัดสัมมนาออนไลน์สุดพิเศษร่วมกับ HSVM ผู้ออก ETF ชั้นนำในฮ่องกง เพื่ออัปเดตภาพรวมเศรษฐกิจและมุมมองตลาดหุ้นจีนฮ่องกง มองแนวโน้มตลาดเป็นบวก รับเศรษฐกิจส่งสัญญาณดีขึ้น ขณะที่ค่า P/E 12 เดือนข้างหน้าของดัชนี Hang Seng อยู่ต่ำ 8.3 เท่า แนะเกาะกระแสตลาดจีนฮ่องกงฟื้นตัว สร้างโอกาสการลงทุนบนตลาดหุ้นไทย ผ่าน DR “HK01” และ “HKCE01” ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น ETF หุ้นฮ่องกงชั้นนำ
 

 
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออกตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) เจ้าแรกของไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาหลักทรัพย์บัวหลวง ได้จัดสัมมนาออนไลน์สุดพิเศษร่วมกับ Hang Seng Investment Management (HSVM) ผู้ออก ETF ชั้นนำในฮ่องกง ที่มาอัปเดตภาพรวมเศรษฐกิจจีนฮ่องกงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนต่างประเทศของบริษัทที่มาให้ข้อมูลด้านการลงทุนในตลาดจีนฮ่องกง ผ่าน DR “HK01” และ “HKCE01” ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ ETF หุ้นฮ่องกง ชั้นนำ เนื่องจากมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมตัวลงทุนในตลาดหุ้นจีนฮ่องกงที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 67

โดยภายในงาน Mr. Wilfred Sit Chief Investment Officer และ Mr. Yonnes Chan Fund Manager, Indexing จาก HSVM ได้ให้ข้อมูลภาพรวมตลาดจีนฮ่องกงไว้ว่า ในด้านของตลาดหุ้นถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แม้ตอนนี้ดัชนี Hang Seng จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงขาลง โดยมีโอกาสจะเห็นดัชนีลงไปแตะจุดต่ำสุดในช่วงต้นปี 67 ขณะที่ในปัจจุบันดัชนี Hang Seng มีมูลค่าตลาดอยู่ในระดับถูกมากใกล้เคียงกับในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยค่า P/E 12 เดือนข้างหน้าของดัชนี Hang Seng อยู่ระดับ 8.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่อยู่ 11.4 เท่า และจากสถิติ ในช่วงที่ผ่านมา ดัชนี Hang Seng มักฟื้นตัวเมื่อ Dividend yield ขึ้นมาแตะระดับ 4.5% ฉะนั้นในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดี ในการหาโอกาสเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนฮ่องกง

ส่วนในแง่ของภาพรวมเศรษฐกิจอาจเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว หลังชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดรัฐบาลจีนได้ ตั้งเป้าตัวเลข GDP ปี 67 เติบโตราว 5% แม้ไม่ได้เป็นตัวเลขที่สูงมากเหมือนในอดีตที่ผ่านมาแต่ถือว่าเป็นการเติบโตที่ดี เมื่อเทียบกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน โดยในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้มีการใช้นโยบายผ่อนคลายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงได้มีการขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Solar Panel Production, Mobile Phone Production, Wind Power Equipment และ Industrial Robots โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปใน ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญราว 37%

จากสถานการณ์เศรษฐกิจจีนฮ่องกงที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 67 ทางทีม BLS Global Investing ของบริษัท ก็มีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นจีนฮ่องกงเช่นเดียวกันกับ HSVM หลังดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลงกว่า 43% ในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 67 อาจเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว หลังเงินเฟ้อจีนเดือนก.พ. 67 พลิกกลับมาบวก 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากที่ติดลบมา 4 เดือนติด ซึ่งจะเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหา เงินฝืด รวมถึงดัชนี PMI เดือนมี.ค. 67 ออกมาดีกว่าคาด โดยภาคการผลิตอยู่ที่ 50.8 จุด พลิกกลับมาอยู่ในโซนขยายตัวในรอบ 6 เดือน จาก 49.1 จุด ในเดือนก่อนหน้า ส่วนภาคบริการอยู่ที่ 53 จุด เพิ่มขึ้นจาก 51.4 จุด ในเดือนก่อนหน้า

ดังนั้นช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน DR “HK01” ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น Tracker Fund of Hong Kong (2800) ลงทุนอ้างอิงดัชนี Hang Seng (HIS) สะท้อนบริษัทชั้นนำของจีนและฮ่องกง 82 ตัว ครอบคลุมมูลค่าตลาดราว 65% ของตลาดหุ้นฮ่องกง และ DR “HKCE01” ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น Hang Seng China Enterprises Index ETF (2828) ลงทุนอิงดัชนี Hang Seng China Enterprises (HSECI) เน้นลงทุนในบริษัทจีนชั้นนำที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงขนาดใหญ่ 50 ตัว โดยมีสัดส่วนของบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจ (SOEs) ราว 44% เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 67 จนถึงวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา DR ทั้ง 2 หลักทรัพย์ สร้างผลตอบแทนได้ราว 5.3% และ 8.2% ตามลำดับ สะท้อนตลาดหุ้นจีนฮ่องกงที่มีทิศทาง ดีขึ้นหลังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนฮ่องกง ขณะที่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับจากต้นปี 67 โดย HK01 เติบโต 346% มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (AUM) อยู่ที่ 167 ล้านบาท ขณะที่ HKCE01 เติบโต 64% มี AUM ราว 47 ล้านบาท นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่า HK01 และ HKCE01 อาจให้ผลตอบแทนปันผลในปี 67 ราว 4.8% และ 3% ตามลำดับ

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุน DR01 ทั้ง 10 หลักทรัพย์ (E1VFVN3001, FUEVFVND01, NDX01, STAR5001, CN01, CNTECH01, HK01, HKCE01, LVMH01 และ ASML01) ครอบคลุมการลงทุนในดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จีนฮ่องกง เวียดนาม และหุ้นสามัญในตลาดยุโรป กับหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถเปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ได้ที่ www.bualuang.co.th โดยนักลงทุนจะได้รับรายงานแนะนำการลงทุนพร้อมแนวโน้มทิศทางราคา DR01 ประจำสัปดาห์ รวมถึงรายงานสรุปประเด็นสำคัญประจำเดือน ซึ่งจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพ รวมถึงมีโอกาสได้เข้าร่วมงานสัมมนาที่จัดเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 เม.ย. 2567 เวลา : 15:02:45
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 2:20 am