นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยแนวนโยบายในการขับเคลื่อนกรมบัญชีกลาง เพื่อผลักดันภาครัฐมุ่งสู่ภาครัฐสีเขียวและลดต้นทุนประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง โดยดำเนินงานผ่านแนวทาง 2C 2G 2D ดังนี้
“C” ประกอบด้วย
Customer Centric กรมบัญชีกลางจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า เป็นการดำเนินการโดยเอาใจเขา ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ บุคลากรภาครัฐ หรือผู้ประกอบการ มาใส่ใจเรา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาความยุ่งยากที่เป็นอุปสรรคทั้งในด้านของกฎระเบียบ ระบบงาน การลดภาระงานที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็ว คล่องตัว และเกิดความพึงพอใจจากการให้บริการของกรมบัญชีกลางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางมีแนวทางที่จะปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบของกรมบัญชีกลางให้ทันสมัยเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของทุกภาคส่วน รวมถึงลดต้นทุนของประเทศในภาพรวม
Collaboration กรมบัญชีกลางมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมุ่งสร้างความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลของกรมบัญชีกลางกับหน่วยงานของรัฐมากขึ้น เช่น การเชื่อมข้อมูลระหว่างระบบ e-Payroll และระบบ D-Pension กับระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียภาษีที่เป็นข้าราชการและผู้รับบำนาญ การเชื่อมข้อมูลทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับระบบ e-GP เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ลดภาระการขอและยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทะเบียนนิติบุคคล เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานตรวจสอบ เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และเฝ้าระวังตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงจะมีความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการให้ความรู้ ทั้งในด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่ายของส่วนราชการ รวมถึงการทำบัญชีภาครัฐ
“G” ประกอบด้วย
Good Governance การปฏิบัติงานของกรมบัญชีกลางยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน รวมถึงผลักดันภาครัฐให้มีธรรมาภิบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องของความโปร่งใส เปิดเผย คุ้มค่า เสมอภาค และเป็นธรรม โดยไม่ละเลยในการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ กรมบัญชีกลาง
มีแนวทางที่จะเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือ Open Contracting Data Standard: OCDS เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานได้อย่างสะดวก ลดปัญหาการทุจริตในภาครัฐ นอกจากนั้น จะพัฒนาระบบวิเคราะห์หาความเสี่ยงและตรวจสอบการทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้าง (Red Flag) จากการสมรู้ร่วมคิดในการจัดซื้อจัดจ้าง การผูกขาด และการมีผลประโยชน์ทับซ้อน และพัฒนาระบบสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Contract) เพื่อให้การทำสัญญา
มีความปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น
Green & Sustainable Procurement กรมบัญชีกลางมุ่งเน้นผลักดันภาครัฐให้เป็นภาครัฐสีเขียวและยั่งยืน โดยจะมีการปรับปรุงกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวกับสินค้าสีเขียว สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล และผลักดันให้ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ รวมทั้งตอบโจทย์เป้าหมายที่ไทยจะมุ่งเข้าสู่ประเทศที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emissions) ในปี 2065 พร้อมทั้งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ในปี 2573
“D” ประกอบด้วย
Digital กรมบัญชีกลางมีเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ในปี 2570 โดยจะมีแผนการทำ Digital Transformation ภายในองค์กร ลดการนำเข้าข้อมูลที่ซ้ำซ้อนในแต่ละระบบ และมุ่งผลักดันนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐ ลดระยะเวลาและลดค่าใช้จ่าย รวมถึงพัฒนาระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบงานแล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพ ของบุคลากรของกรมก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้น จะมีการให้ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล รวมถึงสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถผลักดันนโยบายให้สำเร็จ
Data Driven กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลภาครัฐในด้านต่าง ๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลคู่ค้าภาครัฐ ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ข้อมูลการเบิกจ่ายของภาครัฐ รวมถึงข้อมูลค่ารักษาพยาบาล ซึ่งทางกรมบัญชีกลางจะนำข้อมูลมาใช้ ในการคิด วิเคราะห์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที อันจะเป็นการช่วยบริหารทรัพยากรของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในการขับเคลื่อนกรมบัญชีกลางผ่านแนวทาง 2C 2G 2D นี้ มีเป้าหมายหลักคือการผลักดันให้ภาครัฐมีความพร้อมในการรองรับเศรษฐกิจสีเขียวหรือ Green Economy รวมถึงการช่วยลดต้นทุนของประเทศในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลา ลดกระบวนการ รวมถึงลดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ อำนวยความสะดวกและลดภาระของภาคเอกชน อันจะเป็นการช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกทางหนึ่ง”
ข่าวเด่น