เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "กรอบบนเริ่มจำกัด"


 

คาด SET ยังมองการฟื้นตัวมีอัตราเร่งลดลง และกรอบบนเริ่มถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1365 และ 1370 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1350 จุด หากต่ำกว่า เริ่มเป็นสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1340 จุด ประเด็นสำคัญ ติดตามรายงาน GDP ใน Q1/67 ของสหรัฐในวันนี้

ประเด็นสำคัญ

• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6 บาร์เรล

• อิสราเอลประกาศจะเดินหน้าใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีเมืองราฟาห์ หลัง ปธน. สหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่อิสราเอลเป็นจำนวนเงิน 2.6 หมื่นล้านเหรียญ

• วันนี้ BOJ จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงิน นลท. จับตาการดำเนินการเกี่ยวกับเงินเยน หลังเงินเยนเทียบดอลลาร์อ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี

• องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุเอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมากที่สุดในปี 2566 จากสภาพอากาศ ภูมิอากาศ และอันตรายจากน้ำ โดยพายุและน้ำท่วมส่งผลกระทบหนักที่สุด

• Moody's Ratings ปรับลดอันดับเครดิตของ Boeing ลงเหลือ Baa3 จาก Baa2 และแนวโน้มอันดับเครดิตยังเป็นลบ เนื่องจากปัญหาการควบคุมคุณภาพมีผลกระทบต่อกระแสเงินสดอิสระ

• ราคาหุ้น Tesla ปรับขึ้น 12%DoD หลังระบุอาจเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีราคาถูกเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดเริ่มการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2568

• กนง. ระบุพร้อมที่จะทบทวนนโยบาย ดบ. หากมีข้อมูลใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อมุมมอง ศก. ไทยอย่างมีนัย ขณะที่เงินบาทอ่อนตามภูมิภาคจากกลไกตลาด ไม่ถึงขั้นต้องเข้าดูแลเป็นพิเศษ

• AOT สรุปปริมาณการจราจรทางอากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 (11-17 เม.ย. 67) มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง รวมกว่า 2.49 ล้านคน โดยเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 1.54 ล้านคน

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในภาวะเปราะบางและผันผวน จากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เดิม ประกอบกับ การเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 1Q67 ที่คาดจะมีอัตราการเติบโตต่ำ แม้ว่าทิศทางดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐจะมีสัญญาณฟื้นตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะเปราะบาง จากกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้เดิม ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) หุ้นที่สามารถลดความผันผวนและเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และหุ้นโรงกลั่นจะได้ผลบวกผ่านกำไรสต๊อกที่เพิ่มขึ้น เชิงพื้นฐานชอบ BCP ส่วน TOP สำหรับการ Trading (ทั้งนี้หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่การสู้รบอย่างเต็มรูปแบบอาจหนุนราคาน้ำมันเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระยะสั้น เนื่องจากอาจกระทบต่ออุปทานของอิหร่านที่คิดเป็น 3-4% ของอุปทานโลก และกรณีเลวร้ายกระทบการส่งออกน้ำมันผ่านช่องแคบ Hormuz ได้สูงสุดถึงกว่า 17% ของอุปทานโลก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)

2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำ (Defensive Stock) ซึ่งพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ เลือก หุ้นการแพทย์ (BDMS BCH) หุ้นขนส่งทางบก (BEM) หุ้นค้าปลีก (CPALL CPAXT) หุ้นสื่อสาร (ADVANC) หุ้นอสังหาฯ ปันผลดี (AP)

3) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 1Q67 จะมีอัตราการเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งจะประกาศในช่วง 2 สัปดาห์หน้านี้ เลือก SCGP HMPRO

DAILY TOP PICKS

BJC มองเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรกระตุ้น ศก. ของภาครัฐผ่านการแจกเงินดิจิทัล ซึ่งจะหนุนให้ยอดขายและกำไรปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 4Q67 เนื่องจากบริษัทมียอดขาย 20% ในงบการเงินรวมมาจากร้านค้าขนาดเล็กของ BigC B2B และร้าน “โดนใจ” ซึ่งเป็นร้านของผู้ค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ซื้อสินค้าจาก BigC

BEM มองกำไรมีโมเมนตัมฟื้นตัวดีสุดในกลุ่มขนส่งทางบก อีกทั้งยังเห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นที่จะทยอยเข้ามา เช่น การปรับขึ้นค่าโดยสาร MRT ซึ่งคาดจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือน มิ.ย. 67, ข้อสรุปโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และโครงการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (double deck) ใน 2H67
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 เม.ย. 2567 เวลา : 11:24:47
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 5:42 am