แบงก์-นอนแบงก์
บสย. เสริมแกร่ง SMEs ดันยอดค้ำไตรมาส 1/2567 พุ่ง14,432 ล้านบาท ย้ำชัดช่วยต่อเนื่อง ลดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ 0.25% ช่วยกลุ่มเปราะบาง มีผล 1 พ.ค. 2567



 
บสย.ค้ำเติมทุน เสริมแกร่ง SMEs  ดันยอดค้ำประกันสินเชื่อไตรมาส 1/2567 ม.ค.-มี.ค.  พุ่ง 14,432 ล้านบาท ช่วย SMEs  36,142 ราย  สร้างสินเชื่อในระบบ 15,378 ล้านบาท ย้ำชัดช่วยต่อเนื่อง ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ 0.25% ช่วย SMEs รายย่อยและกลุ่มเปราะบางตามนโยบายรัฐบาล มีผล 1 พ.ค. นี้
 

 
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เผยผลดำเนินงาน บสย. ไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.) ภายใต้นโยบายเชิงรุกเพื่อเสริมสภาพคล่อง SMEs ต่อเนื่องอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวมกว่า 14,432 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs  36,142 ราย ได้สินเชื่อ โดยมีสัดส่วนค้ำประกันสินเชื่อในกรุงเทพ 42%  และต่างจังหวัด 58%  โดยยอดค้ำประกันสูงสุด 3 ลำดับแรกมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17%  ภาคใต้ 13% และ  ภาคเหนือ 12% 

 
ประเภทธุรกิจค้ำประกันสูงสุด 5 ลำดับแรกได้แก่ 1.ภาคบริการ 29% (4,287 ล้านบาท) 2. ภาคการผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 14% (2,085 บาท)  3.ภาคสินค้าอุปโภคบริโภค 11% (1,490 ล้านบาท)4.ภาคธุรกิจสินค้าและเครื่องดื่ม 9% (1,288 ล้านบาท) และ 5.ภาคเกษตรกรรม 8% (1,168 ล้านบาท) 
 
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากสถาบันการเงิน ได้แก่ 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะ ที่ 2  สัดส่วน 51% (7,201 ล้านบาท 1,296 ราย สิ้นสุดรับคำขอ 9 เม.ย.2567)  2. โครงการตามมาตรการรัฐ  “บสย. SMEs เข้มแข็ง” (PGS 10) สัดส่วน 27% (3,833 ล้านบาท 33,857 ราย) 3. โครงการที่ บสย. ดำเนินการเอง  สัดส่วน 21%  (3,398 ล้านบาท 1,002 ราย) ได้แก่โครงการ  BI 7 (Bilateral) โครงการ Hybrid Guarantee  

 
ขณะที่มาตรการช่วยลูกหนี้แก้หนี้ยั่งยืน ได้รับความสนใจจากลูกหนี้ บสย. จำนวนมาก เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้  ผ่อนน้อย เบาแรง หนี้ลด หมดเร็ว พร้อมอัตราดอกเบี้ย 0% สามารถช่วยลูกหนี้ได้รับการประนอมหนี้ ระหว่าง เมษายน 2565 – 31 มีนาคม 2567 รวมกว่า 14,000 ราย ขณะที่มาตรการ “ปลดหนี้”  ไตรมาส1/2567 (ม.ค.-มี.ค.2567) มีลูกหนี้ร่วมโครงการ จำนวน 66 ราย มูลหนี้กว่า 14 ล้านบาท โดยโครงการปลดหนี้ เป็นโครงการนำร่องเฟสแรก ระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2567 

สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 2 ยังคงเน้นนโยบายเชิงรุก ตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ บสย. ดำเนินการเองรองรับความต้องการสินเชื่อ  ได้แก่ โครงการ BI 7 (Bilateral) โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Hybrid Guarantee  โครงการค้ำประกันสินเชื่อค่าธรรมเนียมค้ำประกันตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Pricing : RBP) 

โดย บสย. อยู่ในระหว่างการนำเสนอโครงการต่างๆต่อกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาอนุมัติ เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการ SMEs ได้แก่
 
1.โครงการตามนโยบายรัฐ IGNITE Thailand วงเงินค้ำประกัน 5,000 ล้านบาท ร่วมกับธนาคารพันธมิตร ขณะนี้อยู่ในระหว่างเสนอต่อ ครม.  
 
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 วงเงิน 50,000 ล้านบาท กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการขออนุมัติและเสนอ ครม. คาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการ SMEs กว่า 76,000 ราย 
 
3.โครงการแก้ไขประกาศกระทรวงการคลัง การกำหนดให้นิติบุคคลผู้ให้บริการสินเชื่อเป็นสถาบันการเงิน (Non-Bank) ที่คาดว่าจะสามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าในระบบได้มากกว่า 400,000 ราย 
 
4.โครงการร่วมลงทุนกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบความร่วมมือ เพื่อดำเนินการ ภายใต้กรอบเวลาตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ บสย. พร้อมให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ 0.25%  เพื่อช่วยเหลือ SMEs รายย่อย และกลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง มีผล 1 พฤษภาคม นี้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 เม.ย. 2567 เวลา : 12:47:58
23-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 23, 2024, 7:57 pm