นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า
รัฐวิสาหกิจที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงและมีการเบิกจ่ายงบลงทุนมีจำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) โดยในปี 2567 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนจนถึงเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 77,289 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 113 ของแผนการเบิกจ่าย ประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 - เดือนมีนาคม 2567) 34 แห่ง จำนวน 52,794 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 107 ของแผนการเบิกจ่าย และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (เดือนมกราคม 2567 - เดือนมีนาคม 2567) 9 แห่ง จำนวน 24,495 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 131 ของแผนการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการประปานครหลวง และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะของ รฟม. โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) ของ รฟท. และโครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนครึ่งปีงบประมาณ 2567
(ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567) โดยเป็นผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 6 เดือน คิดเป็นร้อยละ 45 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี และผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 3 เดือน คิดเป็นร้อยละ 20 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี โดยรัฐวิสาหกิจได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ทำให้ในภาพรวมมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนกว่า 7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32 ของกรอบงบลงทุน ทั้งนี้ สคร. จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
ข่าวเด่น