ถ้อยแถลงประธานเฟด ส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ย เป็นแรงหนุน SET อย่างไรก็ตาม สัญญาณเทคนิคในกราฟระดับ 60 นาที เข้าสู่ภาวะ overbought อีกครั้ง ทำให้มอง upside ระยะสั้น ยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1380-1385 จุด ด้านกรอบล่างมีแนวรับ 1370 และ 1365 จุด ตามลำดับ ประเด็นสำคัญ วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ
ประเด็นสำคัญ
• ปธ. Fed ส่งสัญญาณจะไม่ปรับขึ้น ดบ. อีก แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาดก็ตาม พร้อมกับกล่าวว่าเงินเฟ้อยังคงปรับตัวลงล่าช้ากว่าที่คาด ซึ่งจะทำให้ Fed ต้องตรึงดบ. ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
• สหรัฐรายงานดัชนี PPI ทั่วไป เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.5%MoM และดัชนี PPI พื้นฐาน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.5%MoM สูงกว่าตลาดคาด ทำให้ตลาดกังวล Fed จะตรึง ดบ. ในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
• ปธน. ฝรั่งเศส ระบุภาคธนาคารของยุโรปจำเป็นต้องมีการควบรวมกิจการกันมากขึ้น แม้หมายความว่าธนาคารฝรั่งเศสรายใหญ่จะถูกซื้อกิจการโดยธนาคารคู่แข่งในยุโรปก็ตาม
• หุ้นเดลิเวอรี่ฮีโร่ปรับขึ้น 26.3%DoD หลังบริษัทอูเบอร์ของสหรัฐประกาศข้อตกลง 1.25 พันล้านเหรียญ เพื่อเทกโอเวอร์ธุรกิจฟู้ดแพนดาในไต้หวันและซื้อหุ้นในเดลิเวอรี่ฮีโร่
• ครม. มีมติเห็นชอบการตรวจลงตรากรณีพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาทำงานในเขต EEC ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี และได้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาคงที่ 17%
• ธปท. รายงานสินเชื่อภาคอสังหาฯ 1Q67 สินเชื่อบ้านระบบธนาคารไทยลดลง ทั้งยอดปล่อยกู้ใหม่และบ้านมือสอง จากความเข้มงวดปล่อยกู้ กังวลหนี้ คุณภาพลูกหนี้ ศก. ชะลอตัว ดบ. สูง
• ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-12 พ.ค.) ไทยมีจำนวน นทท. ต่างชาติ 569,172 คน ลดลง 11.04%WoW แต่จำนวน นทท. สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. - 12 พ.ค. 67 รวม 13,157,997 คน สร้างรายได้จาก นทท. ต่างชาติแล้ว 631,249 ลบ.
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยยังให้น้ำหนักกับการติดตามโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของกลุ่ม Real Sector ที่จะทยอยออกมาในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะยังเห็นภาพการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ช้า ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐและยูโรโซนที่จะประกาศออกมาคาดยังไม่เห็นสัญญาณการปรับลง ซึ่งอาจกดดันตลาดการเงินในช่วงสั้นได้ แต่อย่างไรก็ดี ภาพการผลิตของจีนคาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยให้น้ำหนักกับการติดตามโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของกลุ่ม Real Sector ในสัปดาห์นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้นธีม Earnings Play สำหรับเก็งกำไรผลประกอบการ 1Q67 ซึ่งคาดจะเติบโตดี YoY และจะประกาศในสัปดาห์นี้ อีกทั้งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นไม่มาก เลือก AOT BDMS BEM ERW MINT BCH OSP
2) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรในหุ้นคาดมีโมเมนตัมกำไร 2Q67 เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก BEM KCE HMPRO THRE TIDLOR
3) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง และรายงานสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นทิศทางตามฤดูกาล ในกรณีฐานที่เป็นสงครามเงา ราคาน้ำมันดิบ Bent จะอยู่ในระดับที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้นการมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP
DAILY TOP PICKS
ERW 1Q67 กำไรสุทธิ 417 ลบ. เติบโตจากรายการพิเศษ กำไรปกติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 289 ลบ. (+29%YoY, +24%QoQ) จาก EBITDA margin ที่แข็งแกร่ง มองผลประกอบการยังได้ผลบวกจากท่องเที่ยวไทยที่เติบโต อีกทั้งราคาหุ้นซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2567 ที่ 11 เท่า (เกือบ -1SD ของค่าเฉลี่ยอดีต)
OSP 1Q67 คาดกำไรปกติ 814 ลบ. (+72.4%YoY, +79.7%QoQ) หนุนจากการเติบโตของรายได้จากส่วนแบ่งการตลาดใน ปท. ที่เพิ่มขึ้นและยอดขาย ตปท. ที่สูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากต้นทุนขายลดลงและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ขณะที่ทั้งปี 2567 คาดกำไรสุทธิเติบโต 9.2%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นอาจมี upside
ข่าวเด่น