วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ในการเป็นสมาชิก กอช. เพื่อส่งเสริมวินัยการออม ให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการด้านสถานศึกษา ศึกษาธิการจังหวัด ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาหรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด ผู้อำนวยการโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา และ ตัวแทนนักเรียน เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ในงานประชุม “มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนส่งเสริมวินัยการออมกับ กอช.” ณ ห้องประชุมลีลาวดี โรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท จังหวัดชัยภูมิ โดยมี นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อนำไปขับเคลื่อนส่งเสริมการออมให้กับประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระในแต่ละพื้นที่ต่อไป อีกทั้งยังมี ดร.ชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ นางยุภารัตน์ เนื่องจำนงค์ คลังจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกล่าวนโยบายขับเคลื่อน กอช. เพื่อความมั่นคงของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับงานประชุมในครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการจะส่งเสริมให้คนไทยที่เป็นแรงงานนอกระบบ รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา ได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการออมเงินเพื่อการชราภาพ รวมถึงการกระตุ้น ส่งเสริม และสนับสนุนให้ประชาชนที่มีอายุระหว่าง 15 - 60 ปี ที่มีสิทธิสมัคร ได้เข้าถึงสวัสดิการผ่านการออมเงินกับ กอช.
กอช. นับเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงิน เพียงเริ่มออมเพียง 50 บาท/ครั้ง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และมีรัฐสมทบตามช่วงอายุ ดังนี้
• อายุ 15 - 30 ปี รัฐสมทบ 50% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาท/ปี
• อายุ 30 - 50 ปี รัฐสมทบ 80% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาท/ปี
• อายุ 50 - 60 ปี รัฐสมทบ 100% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาท/ปี
นอกจากนี้ การออมกับ กอช. ยังมีความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องส่งเงินออมเท่ากันทุกปี โดยเงินออมสามารถนำไปยื่นลดหย่อนภาษีประจำปีได้และยังได้รับการค้ำประกันผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่ออายุครบ 60 อีกด้วย
กอช.มีช่องทางการให้บริการที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่หน่วยรับสมัครและส่งเงิน อาทิ สำนักงานคลังจังหวัด เสมียนตราอำเภอ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ที่ทำไปรษณีย์ไทย เซเว่น-อีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส และ ตู้บุญเติม อีกทั้ง กอช. ได้มีการออมที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี ให้สมาชิเข้าถึงการออมง่ายยิ่งขึ้น ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟนอาทิ แอปฯ กอช./ ไลน์ กอช./ แอปฯ ทางรัฐ /แอปเป๋าตัง/ K PLUS/ Krungthai NEXT/ Mymo/ TrueMoney / และแอปฯ ออมเพลิน
นอกจากนี้ กอช. ทำการปลูกฝังวินัยการออมในกลุ่มเยาวชน โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มุ่งเน้นในการสร้างวินัยทางการเงิน ให้เยาวชนได้เริ่มออมเงินตั้งแต่ช่วงวัยเรียน โดยจะมอบวุฒิบัตรให้กับนักเรียนและเยาวชนภายใต้สังกัด สพฐ. ที่ออมเงินกับ กอช. เพื่อเป็นการฝึกฝนและทำให้เห็นถึงความสำคัญของการออมเงินเพื่ออนาคต และสำหรับนักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืมที่อยู่ในระหว่างการศึกษากับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ) สมัครเป็นสมาชิก กอช. ส่งเงินออมสะสมกับ กอช. ได้เดือนละ 1 ครั้ง นับชั่วโมงจิตสาธารณะเป็น 1 ชั่วโมง สูงสุด 15 ชั่วโมงต่อปี
สุดท้ายนี้ กอช. แนะนำให้สมาชิกส่งเงินออมเพียง 5 ปี ปีละ 30,000 บาท ก็สามารถมีสิทธิรับบำนาญตลอดชีพได้ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ และสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ทางแอปพลิเคชันของ กอช. ช่องทางไลน์แอด กอช. @nsf.th หรือสายด่วนเงินออม 02 049 9000
ข่าวเด่น