เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล .อินโนเวสท์วิเคราะห์ "หากต่ำกว่า 1360 จุด เป็นลบต่อ"



SET สัญญาณยังอ่อนแรง ล่าสุดลงมาใกล้แนวรับบริเวณ 1360 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1354 จุด ขณะที่สัญญาณเทคนิคในภาพรวมที่เป็นลบ ทำให้การฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีกรอบบนบริเวณแนวต้าน 1370 และ 1375 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• นีล แคชแครี ปธ. Fed สาขามินนีแอโพลิส ระบุต้องการเห็นข้อมูลเพิ่มอีกหลายเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงก่อนหนุน Fed ลด ดบ. และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ Fed อาจขึ้น ดบ. หากเงินเฟ้อปรับขึ้นอีก

• วานนี้ราคาหุ้น Nvidia สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดเกิดจากเก็งกำไรแตกหุ้น 10:1 และหวังเป็นผู้จัดหาชิป AI ให้แก่ xAI ด้านราคาหุ้น Apple ปรับขึ้น หลังยอดจัดส่ง iPhone ในจีน เม.ย. ฟื้นตัวขึ้น 52% หลัง Apple และผู้ค้าปลีกจีนปรับลดราคา iPhone ตั้งแต่ต้นปีนี้

• ครม. เห็นชอบมาตรการและแนวการตรวจลงตราเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้น ศก. เช่น ให้สิทธิ์ยกเว้นตรวจลงตราสามารถพำนักในไทยไม่เกิน 60 วัน ปรับปรุงสิทธิ์นักศึกษาต่างชาติ รวมถึงปรับหลักเกณฑ์กลุ่มผู้มีอายุที่ประสงค์ใช้ชีวิตบั้นปลายที่ไทย ด้าน ก. คลัง ระบุเตรียมหามาตรการกระตุ้น ศก. ระยะสั้น ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ ปชช. ผ่อนชำระหนี้แต่ละงวดให้น้อยลง ขยายเวลาผ่อนชำระให้ยาวนานขึ้น พร้อมปรับเพิ่มบทบาท บสย. ให้ค้ำประกันได้มากขึ้น

• ก. คลังเห็นชอบให้มีการเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS 9) ต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ออกไปอีก 2 ปี จากเดิมจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 68 ออกไปเป็นปี 70 เพื่อให้เวลาธนาคารรัฐได้มีเวลาปรับตัวกับการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่เพิ่มเติม

• ก. ท่องเที่ยว รายงานจำนวน นทท.ต่างชาติช่วง 20-26 พ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 4.30%WoW ส่งผลให้ 1 ม.ค.-26 พ.ค. 67 มี นทท. สะสมกว่า  14.3 ล้านคน สร้างรายได้ราว 6.83 แสนลบ. โดย นทท. สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวในกรอบ หลังไร้ปัจจัยชี้นำ โดยใน ปท. การประชุม ครม. ศก. นัดแรกยังไม่มีการออกมาตรการใดๆ และตัวเลข ศก. คาดยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนปัจจัย ตปท. ดัชนี PCE เม.ย. สหรัฐคาดสะท้อนอยู่ในราคาไปแล้ว และดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนคาดปรับตัวดีขึ้น หลังออกมาตรการกระตุ้น ศก. ต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. ทั่วโลกยังค่อนข้างดี แม้ บจ. ไทยจะเติบโตได้น้อยใน 1Q67 แต่คาด 2Q67 จะเติบโตดีขึ้น ช่วยหนุน SET Index ปรับขึ้นได้ตั้งแต่ 3Q67 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวในกรอบ หลังยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ อย่างไรก็ดี 2Q67 คาดผลประกอบการของ บจ. ไทยจะเติบโตดีขึ้นซึ่งจะหนุนการปรับตัวขึ้นของ SET Index ได้ตั้งแต่ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้ 

1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก KCE SCGP PTTGC

2) หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะยังสามารถเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก MINT ADVANC TU BEM CPF BTG OSP TILDOR

3) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP ทั้งนี้ติดตาม OPEC+ เตรียมจัดประชุมออนไลน์ 2 มิ.ย.นี้ หารือนโยบายผลิตน้ำมัน

DAILY TOP PICKS

PTTEP มองราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งในระยะสั้นยังเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น และยังเป็นหุ้นที่ป้องกันความเสี่ยงจากความกังวลความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานและงบดุลยังแข็งแกร่ง โดย 2Q67 คาดกำไรจะดีขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันและปริมาณการขายที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

ADVANC 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคาดค่าใช้จ่ายในการบริหารจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก synergy ด้านต้นทุนเริ่มเห็นผลแล้ว คาดกำไรปี 2567 จะเพิ่มขึ้นสู่ 3.16 หมื่นลบ. (+10.9%YoY)
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 พ.ค. 2567 เวลา : 11:15:34
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 9:49 pm