นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า
รัฐวิสาหกิจที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงและมีการเบิกจ่ายงบลงทุนมีจำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) โดยในปี 2567 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนจนถึงเดือนเมษายน 2567 จำนวน 111,847 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 126 ของแผนการเบิกจ่าย ประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุน ของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 - เดือนเมษายน 2567) 34 แห่ง จำนวน 62,978 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 105 ของแผนการเบิกจ่าย และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (เดือนมกราคม 2567 - เดือนเมษายน 2567) 9 แห่ง จำนวน 48,869 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 170 ของแผนการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่าย และมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการประปานครหลวง และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผน การเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ แผนร่วมทุนในบริษัท LNG Receiving Terminal (แห่งที่ 2) บ้านหนองแฟบ ของ กฟผ. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะของ รฟม. และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) ของ รฟท. นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2567 เป็นผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 7 เดือน คิดเป็นร้อยละ 53 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี และผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 4 เดือน คิดเป็นร้อยละ 34 ของกรอบงบลงทุนทั้งปี โดยรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ส่งผลให้ในภาพรวม มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนกว่าหนึ่งแสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43 ของกรอบงบลงทุน ทั้งนี้ สคร. จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
ข่าวเด่น