เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "สัญญาณยังเป็นลบ"



SET สัญญาณทางเทคนิคยังเป็นลบ ทำให้มีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1340 และจุดต่ำเดิมบริเวณ 1330 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีกรอบบนบริเวณแนวต้าน 1356 และ 1362 จุด ตามลำดับ ประเด็นสำคัญ ติดตามตัวเลข PCE สหรัฐ ในวันพรุ่งนี้

ประเด็นสำคัญ

• Fed ระบุ Beige Book บ่งชี้กิจกรรมทาง ศก. ของสหรัฐยังขยายตัวช่วงต้นเดือน เม.ย.-กลางเดือน พ.ค. แต่บริษัทต่าง ๆ มีมุมมองเป็นลบมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต ในขณะที่เงินเฟ้อปรับตัวเล็กน้อย

• IMF เพิ่มคาดการณ์ GDP จีนปีนี้ว่าจะเติบโต 5% จากเดิมที่ 4.6% ด้วยอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้น ศก. ของรัฐบาลจีน อีกทั้งตัวเลข ศก. ใน 1Q67 เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

• เมืองเทียนจินผ่อนคลายนโยบายที่อยู่อาศัยตามแผนฟื้นอสังหาฯ ของทางการจีน โดยลดชำระเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับจำนองที่อยู่อาศัยลงสู่ 15% สำหรับบ้านหลังแรก และ 25% สำหรับบ้านหลังที่ 2 พร้อมยกเลิก ดบ. จำนองที่อยู่อาศัยขั้นต่ำสำหรับซื้อบ้านหลังแรกและหลังที่ 2

• กลุ่มฮูตีเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่เรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง เพื่อตอบโต้การทำสงครามของอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา กระทบต่อการขนส่งสินค้าต้องใช้เวลานานขึ้น

• ก. คลังกำลังพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้เสียประวัติทางเครดิตให้กลับเข้ามาขอสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้น หลังขณะนี้ผู้ที่มีประวัติเป็นหนี้เสียต้องติดบัญชีดำนานถึง 8 ปี ถือว่ายาวนานมาก

• ก. คลังเตรียมนัดวันหารือกับ FETCO เกี่ยวกับแนวทางและหลักเกณฑ์ในการฟื้นกองทุน LTF เพื่อกระตุ้นให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง

• อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร ผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ช่วงสั้นมองการเมืองใน ปท. เป็นปัจจัยกดดันการลงทุน ทำให้ SET ยัง underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค เพราะกังวลความล่าช้าของการออกมาตรการกระตุ้น ศก. และการเบิกจ่ายงบของภาครัฐ

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวในกรอบ หลังไร้ปัจจัยชี้นำ โดยใน ปท. การประชุม ครม. ศก. นัดแรกยังไม่มีการออกมาตรการใดๆ และตัวเลข ศก. คาดยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนปัจจัย ตปท. ดัชนี PCE เม.ย. สหรัฐคาดสะท้อนอยู่ในราคาไปแล้ว และดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนคาดปรับตัวดีขึ้น หลังออกมาตรการกระตุ้น ศก. ต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. ทั่วโลกยังค่อนข้างดี แม้ บจ. ไทยจะเติบโตได้น้อยใน 1Q67 แต่คาด 2Q67 จะเติบโตดีขึ้น ช่วยหนุน SET Index ปรับขึ้นได้ตั้งแต่ 3Q67 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวในกรอบ หลังยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ อย่างไรก็ดี 2Q67 คาดผลประกอบการของ บจ. ไทยจะเติบโตดีขึ้นซึ่งจะหนุนการปรับตัวขึ้นของ SET Index ได้ตั้งแต่ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้ 

1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก KCE SCGP PTTGC

2) หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะยังสามารถเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก MINT ADVANC TU BEM CPF BTG OSP TILDOR

3) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP ทั้งนี้ติดตาม OPEC+ เตรียมจัดประชุมออนไลน์ 2 มิ.ย.นี้ หารือนโยบายผลิตน้ำมัน

DAILY TOP PICKS

TU ได้อานิสงส์จากบาทอ่อนค่า คาดกำไร 2Q67 จะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และ YoY จากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ดีขึ้น อีกทั้งไม่มีผลขาดทุนจาก Red Lobster ด้าน Valuation ยังไม่แพง โดยปัจจุบันเทรด PER 67F ที่ 14.7 เท่า ต่ำกว่า -1SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต 10 ปีที่ 16 เท่า

BCH 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ และคาดจะเห็นการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H67 หนุนจากการเปิดศูนย์การแพทย์เพิ่ม การปรับปรุงโรงพยาบาลแล้วเสร็จ และการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ รพ. ใหม่ valuation ระดับไม่แพง คาดกำไรปี 2567 โต 20%YoY ดีสุดในกลุ่มการแพทย์
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 พ.ค. 2567 เวลา : 11:11:31
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 9:51 pm