“ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2567 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 82.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในภาคบริการ จากมาตรการส่งเสริม พัฒนา และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ ประกอบกับมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพของภาครัฐผ่านโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 และความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น จากอุปสงค์และคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับยางพารา และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทางด้านดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พบว่ายังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 85.9 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 76.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคการลงทุน จากการจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ผ่านพ้นฤดูมรสุมแล้ว รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ ของภาครัฐ แต่ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อความผันผวนของราคาพลังงานและทิศทางเศรษฐกิจโลก ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 74.7 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาคบริการ จากการจัดงานเทศกาล งานประเพณี และการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือ และภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น จากอุปสงค์สินค้าอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมและปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัว โดยคาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตทางการเกษตรป้อนเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น แต่ยังต้องติดตามประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งอาจส่งผลต่อภาคการผลิตและการส่งออกของไทย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 71.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคบริการ จากแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐและภาคเอกชน และนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล จะช่วยให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และภาคเกษตรกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น จากราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดที่อยู่ในเกณฑ์ดีและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนภาคเกษตรกรรมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แปรปรวนและปัญหาภัยแล้ง ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 71.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการและภาคเกษตรกรรม จากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่ช่วยสนับสนุนภาคเกษตรกรรมและกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนและฝนทิ้งช่วงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตภาคการเกษตร ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 70.4 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรและภาคอุตสาหกรรม จากแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารได้ ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนเกษตรกร อาทิ มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามโอกาสเกิดภัยแล้งและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 67.3 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคการลงทุนตามแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ข่าวเด่น