SET ฟื้นตัวจากแนวรับ 1340 จุด อย่างไรก็ตาม sentiment ลบ ของตลาดหุ้นสหรัฐ หลัง GDP ไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งที่ 2) ต่ำคาด และตลาดรอดูตัวเลข PCE ของสหรัฐ ในวันนี้ ทำให้คาดการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1355-1360 ด้านแนวรับอยู่ที่ 1340 จุด หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบต่อ
ประเด็นสำคัญ
• สหรัฐรายงาน GDP 1Q67 (ประมาณการครั้งที่ 2) ขยายตัว 1.3% ต่ำกว่าประมาณการครั้งแรกที่ 1.6% โดย ศก. ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ 2.19 แสนรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตลาดคาด
• ราคาน้ำมัน WTI ลดลง 1.67%DoD หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มมากกว่าคาด บ่งชี้อุปสงค์เชื้อเพลิงชะลอตัว
• อดีต ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกคณะลูกขุนตัดสินด้วยมติเอกฉันท์ ข้อหาปลอมแปลงเอกสารคดีจ่ายเงินลับฯ ก่อนการเลือกตั้ง ปธน. ที่เขาชนะการเลือกตั้งในปี 2559 ทำให้ความชัดเจนทารการเมืองของสหรัฐลดลง
• หน่วยงานระดับภูมิภาคบางแห่งของจีนแนะนำให้บริษัทต่าง ๆ ชะลอการซื้อสกุลเงิน ตปท. บ่งชี้ว่าจีนกำลังจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เงินทุนไหลออก ท่ามกลางภาวะเงินหยวนอ่อนค่า
• จีนส่งออกกากถั่วเหลืองไป ตปท. มากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากจำนวนสุกรลดลงและอุปสงค์เนื้อหมูที่เบาบาง หนุนให้ผู้แปรรูปส่งออกอาหารสัตว์ส่วนเกินไป ปท. อื่น
• ราคาหุ้น Salesforce ปรับลง 19.7%DoD หลังรายงานรายได้ 1Q67 และคาดการณ์รายได้ 2Q67 ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากลูกค้าลดการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ cloud ของบริษัท
• กบน. มีมติตรึงอัตราชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 1.40 บาท เพื่อรักษาสภาพคล่องกองทุนฯ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้นอีกลิตรละ 0.50 บ. เป็นลิตรละ 32.94 บ. มีผลตั้งแต่ 31 พ.ค. เป็นต้นไป
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวในกรอบ หลังไร้ปัจจัยชี้นำ โดยใน ปท. การประชุม ครม. ศก. นัดแรกยังไม่มีการออกมาตรการใดๆ และตัวเลข ศก. คาดยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ส่วนปัจจัย ตปท. ดัชนี PCE เม.ย. สหรัฐคาดสะท้อนอยู่ในราคาไปแล้ว และดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนคาดปรับตัวดีขึ้น หลังออกมาตรการกระตุ้น ศก. ต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. ทั่วโลกยังค่อนข้างดี แม้ บจ. ไทยจะเติบโตได้น้อยใน 1Q67 แต่คาด 2Q67 จะเติบโตดีขึ้น ช่วยหนุน SET Index ปรับขึ้นได้ตั้งแต่ 3Q67 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวในกรอบ หลังยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ อย่างไรก็ดี 2Q67 คาดผลประกอบการของ บจ. ไทยจะเติบโตดีขึ้นซึ่งจะหนุนการปรับตัวขึ้นของ SET Index ได้ตั้งแต่ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก KCE SCGP PTTGC
2) หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะยังสามารถเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก MINT ADVANC TU BEM CPF BTG OSP TILDOR
3) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP ทั้งนี้ติดตาม OPEC+ เตรียมจัดประชุมออนไลน์ 2 มิ.ย.นี้ หารือนโยบายผลิตน้ำมัน
DAILY TOP PICKS
SCGP มองได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิตโดยเฉพาะจีน โดยแม้กำไร 2Q67 คาดจะอ่อนแอลงเล็กน้อย QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่กำไรจะเติบโตต่อเนื่องใน 2H67 แรงหนุนจากราคาและความต้องการกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น ทำให้ปี 2567 คาดกำไรปกติจะพลิกเติบโต 27.6%YoY สู่ระดับ 6.6 พันลบ.
GPSC มองได้ Sentiment บวกจาก Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับลง ขณะที่เชื่อว่าปีที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยกำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง คาดกำไรปกติ 2Q67 ดีขึ้น YoY และ QoQ จากการได้ประโยชน์ต้นทุนก๊าซที่ลดลงและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก Avaada และ CFXD
ข่าวเด่น