เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ฟื้นตัวจำกัด ทิศทางยังเป็นลบ"


SET คาดช่วงแรกได้ sentiment บวก จากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมยังเผชิญปัจจัยกดดันด้านการเมือง และทิศทาง fund flow ไหลออก ทำให้มองการฟื้นตัวถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1325-1330 จุด และมีโอกาสปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1310 และ 1300 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะขึ้นไปที่ 86 เหรียญ/บาร์เรลใน 3Q67 หนุนจากการเดินทางในช่วงฤดูร้อน และอุปสงค์ในการใช้พลังงานเพื่อผ่อนคลายความร้อน ซึ่งจะทำให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดมากกว่าอุปทานถึง 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน

• รัฐบาลมาเลเซียประกาศยุติมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาลราว 4 พันล้านริงกิต/ปี และสกัดการลักลอบขายน้ำมันออกนอกประเทศสร้างความเสียหายปีละหลายพันล้านริงกิต

• Apple เปิดตัวฟีเจอร์ด้าน AI ในชื่อ Apple Intelligence โดยนำเอา ChatGPT ของ OpenAI มาอยู่ในทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น iOS 18, iPadOS18, macOS Sequoia และ visionOS 2

• FETCO ระบุดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน พ.ค. 67 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 คาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้น ศก. ภาครัฐ และนโยบายของ Fed ปัจจัยฉุดคือความขัดแย้งระหว่าง ปท. และเงินเฟ้อ

• ที่ประชุม ครม. ศก. หารือถึงการแก้ปัญหา ศก. ที่โตต่ำกว่าศักยภาพและต่ำกว่าภูมิภาค โดยมาตรการระยะยาวตั้งเป้า GDP ต้องขยายตัวราว 5% แต่ช่วงที่เหลือปีนี้ต้องมีมาตรการระยะสั้นเพื่อให้ GDP ปีนี้โตได้ราว 3% นอกจากนี้ยังตั้งเป้าเพิ่มจำนวน นทท. ปีนี้เป็น 36.7 ล้านคน รวมทั้งการเร่งงบลงทุนสูงกว่า 70% เพิ่มการลงทุน 3-4 หมื่นลบ. เตรียมออกซอฟต์โลนกว่าแสนลบ. ช่วยเหลือ SMEs 

• BOI ระบุเร่งดึงการลงทุนอุตฯ อิเล็กฯ ต้นน้ำ ขณะที่รัฐบาลเตรียมตั้งบอร์ดเซมิคอนดักเตอร์เพื่อพัฒนาให้เกิดระบบนิเวศ ดึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเพื่อยกระดับอุตฯ มูลค่าสูง

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบาง โดยได้รับแรงกดดันจากประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะกดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50%  เช่นเดิม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดยังไร้สัญญาณบวกใหม่ในสัปดาห์นี้ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ค. ของสหรัฐและจีนคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น MoM ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดคาดจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.50% แต่คาดจะมีปรับ dot plot ลดดอกเบี้ยในปีนี้น้อยกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3 ครั้ง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มองตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศกดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดยังไร้สัญญาณบวกใหม่ในสัปดาห์นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้ 

1) หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวชนะตลาดได้ YTD เลือก ICT (ADVANC) TOURISM (MINT)  และ FOOD (TU BTG OSP) 

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL CPAXT BJC MINT TU 

3) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก KCE SCGP PTTGC

4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

DAILY TOP PICKS

BBL หนึ่งในหุ้นเด่นกลุ่มธนาคาร โดยมอง valuation น่าสนใจ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และสินเชื่อเติบโตโดดเด่น อีกทั้งล่าสุดเรามีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลังคาดปีนี้ ธปท. จะไม่ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ปี 2567 คาด BBL จะมีกำไรเติบโต 5%YoY และโตต่อ 10%YoY ในปี 2568  

TOP ระยะสั้นคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้น ขณะที่ค่าการกลั่นมองอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้วและกำลังรอฟื้นตัว จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล อีกทั้งผลการดําเนินงานธุรกิจอะโรเมติกส์คาดจะปรับตัวดีขึ้น จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในเอเชีย
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 มิ.ย. 2567 เวลา : 11:03:16
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 7:24 pm