เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ปัจจัยการเมืองยังกดดัน"



 
คาด SET การฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านบริเวณ 1315 และ 1320 จุด ตามลำดับ จากปัจจัยการเมืองที่ยังกดดันดัชนี โดยวันพรุ่งนี้มีหลายประเด็นการเมืองที่ต้องติดตาม รวมถึงทิศทาง fund flow ยังไหลออก ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1300 และ 1290 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ มิ.ย. โดย ม. มิชิแกน ปรับตัวลงสู่ระดับ 65.6 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.5 จากระดับ 69.1 ในเดือน พ.ค.

• BOJ มีมติคง ดบ. นโยบายที่ระดับ 0-0.1% และปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น หลังประกาศขึ้น ดบ. เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีในการประชุมเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

• สต็อกทองแดงในตลาด LME เพิ่มขึ้น 28% ในเดือน พ.ค. ทำระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ส่วนสต็อกทองแดงในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ผลมาจากการที่จีนเพิ่มกำลังการผลิตโลหะประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงทองแดง

• รมว. คลังฝรั่งเศสกล่าวเตือนว่า ฝรั่งเศสอาจเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน หากพรรคขวาจัดหรือซ้ายจัดชนะการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึงนี้ เนื่องจากมีแผนการใช้จ่ายจำนวนมาก

• กองทัพอิสราเอลประกาศระงับปฏิบัติการทางทหารในบางพื้นที่ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาชั่วคราวเป็นประจำทุกวัน เพื่อเปิดทางสำหรับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาชาเพิ่มมากขึ้น

• ผู้พิพากษารัฐบาลกลางสหรัฐตัดสินว่า Google จะต้องถูกพิจารณาคดีในข้อกล่าวหาของหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดตลาดของสหรัฐ ที่ระบุว่า Google ผูกขาดตลาดเทคโนโลยีโฆษณาออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย

• บอร์ด BOI อนุมัติ 8 โครงการลงทุน มูลค่ารวม 5.7 หมื่นลบ. โดยเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งในด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงานสะอาด กิจการ Data Center กิจการ รพ. และการขนส่งทางอากาศ พร้อมอนุมัติยกเว้นภาษี 3 ปี หนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและเปราะบาง จากความกังวลความเสี่ยงเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ โดยในวันที่ 18 มิ.ย. นี้จะมีการพิจารณา 4 คดีทางการเมืองสำคัญ ได้แก่ คดียุบพรรคก้าวไกล, คดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา, คดีอดีตนายกฯ ทักษิณ และคดี สว. จึงทำให้ SET ยังมีแนวโน้ม Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์และการส่งออกของไทยที่คาดจะยังอ่อนแอ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนและสหรัฐคาดจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วน BoE คาดจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25% แต่จะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินใน 3Q67 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มองตลาดหุ้นไทยยังผันผวนและเปราะบาง จากกังวลความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศ ทำให้ SET ยังมีโอกาส Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้ 

1) หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP PTTGC

2) หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวชนะตลาดได้ YTD เลือก ICT (ADVANC) TOURISM (MINT)  และ FOOD (TU BTG OSP) 

3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL MINT TU 

4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

DAILY TOP PICKS

ADVANC 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคาดค่าใช้จ่ายในการบริหารจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก synergy ด้านต้นทุนเริ่มเห็นผลแล้ว คาดกำไรปี 2567 จะเพิ่มขึ้นสู่ 3.16 หมื่นลบ. (+10.9%YoY)

CPF 2Q67 คาดกำไรมีแนวโน้มโตดีสุดในกลุ่มอาหาร โดยจะเติบโต QoQ จากราคาสัตว์บกที่ปรับตัวดีขึ้นในไทยและเวียดนาม ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง และฟื้นตัวจากขาดทุนใน 2Q66 จากราคาสุกร ตปท. และราคาสัตว์บกใน ปท. ที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จากการขายธุรกิจที่สร้างผลขาดทุนออกไปใน 2H66
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 มิ.ย. 2567 เวลา : 11:29:27
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 6:34 pm