- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 0.23% สู่ระดับ 105.83 ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ ส่งผลทำให้น้ำมันดิบในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นและทำให้ความน่าสนใจในการเข้าซื้อลดลง
- ตัวเลขเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปยังคงอ่อนแอ หลังรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคบริการและการผลิต เดือน มิ.ย. 67 อยู่ที่ระดับ 50.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 52.2 เศรษฐกิจของยุโรปที่ยังคงไม่ได้แสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ย่อมส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมันของภูมิภาค แม้ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
+สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังกองทัพอิสราเอลได้โจมตีเขตพื้นที่อัล-มาวาซี (Al-Mawasi) ซึ่งถือเป็นเขตทางด้านมนุษยธรรม (Safe zone) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปตะวันออกก็มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน หลังรัสเซียกลับมาเดินหน้าโจมตีสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครนผ่านการใช้ขีปนาวุธและโดรน เพื่อตอบโต้ต่อการโจมตีของยูเครนที่พุ่งเป้าไปที่สาธารณูปโภคด้านพลังงานของรัสเซีย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มิ.ย. 67 ปรับลดลง 2.28 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 231.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของอินเดียและตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ตัวเลขน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 มิ.ย. 67 ปรับลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 8.9 ล้านบาร์เรล
ข่าวเด่น