PRM แย้มผลงานไตรมาส 2/67 เติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยหนุนอัตราการใช้เรือ FSU เพิ่มสูงขึ้น เรือขนส่งน้ำมันดิบระหว่างประเทศให้บริการเต็มทุกลำ พร้อมขยายการให้บริการเรือ Offshore Support Vessel เต็มกำลัง เผยแผนเตรียมซื้อเรือ FSU และ Aframax อย่างละ 1 ลำ ขยายกองเรือเพิ่มรับดีมานด์โต หนุนผลประกอบการปี 67 โตตามเป้า
นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายพาณิชย์และการลงทุน บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM คาดการณ์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสแรกปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยหนุนจากอัตราการใช้เรือ FSU ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการกักเก็บน้ำมันและผสมน้ำมันเกรดใหม่ สอดคล้องกับกฎระเบียบและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับเรือ VLCC ที่เข้าอู่แห้งในไตรมาสแรก กลับมาให้บริการตามปกติ ทำให้ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบระหว่างประเทศให้บริการเต็มครบทุกลำ พร้อมทั้งรับรู้รายได้เต็มไตรมาส จากการให้บริการเรือในธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล “OSV” เพิ่มขึ้น 3 ลำ ที่เริ่มทยอยให้บริการตั้งแต่ช่วงต้นปี
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นผลดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ ยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก มีปัจจัยสนับสนุนจากแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ และการเข้าทำสัญญาให้บริการระยะยาวเพื่อเสริมความมั่นคงของรายได้ในระยะยาว
นางสาวสุธาสินี กล่าวเพิ่มเติมถึงการขยายกองเรือว่า บริษัทได้ตั้ง CAPEX ในปีนี้ไว้มากกว่า 3 พันล้านบาทเพื่อเพิ่มกองเรือ โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2567 จะซื้อเรือ FSU เพิ่มอีก 1 ลำ โดยมองว่าธุรกิจ FSU ยังมีทิศทางการเติบโตที่สดใสตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการในการกักเก็บน้ำมันที่ฟื้นตัวและความต้องการในการผสมน้ำมันเกรดใหม่ ซึ่ง FSU ของบริษัทมีความได้เปรียบ เนื่องจากมีความสามารถในการผสมและปรับเกรดน้ำมันตามความต้องการของลูกค้าได้
รวมถึงการซื้อเรือ Aframax ใหม่จำนวน 1 ลำ เพื่อทดแทนเรือลำเดิมที่เตรียมนำไปดัดแปลงให้เป็นเรือ FSO เพื่อให้ขยายธุรกิจ Offshore Support Vessel “OSV” ที่คว้างานสัญญาระยะยาวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนปรับลดอายุกองเรือ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ และควบคุมต้นทุนจากการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเตรียมการสั่งต่อเรือใหม่ 6 ลำ ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับเรือได้ในปี 2568-2569 มั่นใจ PRM ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะเติบโตแข็งแกร่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ข่าวเด่น