- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% หลังตลาดคลายกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว เนื่องจากพายุเฮอริเคนเบริลที่พัดเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันดิบหลักของสหรัฐฯ ล่าสุดท่าเรือขนส่งน้ำมันได้เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
+/- วานนี้ (9 ก.ค. 67) เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แถลงต่อหน้าคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภา ว่าจะพิจารณานโยบายการปรับอัตราดอกเบี้ยโดยอ้างอิงจากสัญญาณล่าสุดของอัตราเงินเฟ้อและตลาดงานในประเทศที่ชะลอตัวลง โดยอัตราการว่างงานในเดือนมิ.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.1% จาก 3.4% ในปีก่อนหน้า ส่งผลให้ตลาดคาดว่าในการประชุม FED ที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ย. 67 อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงอาจเป็นอุปสรรคต่ออุปสงค์น้ำมันดิบในตลาด
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เปิดเผยปริมาณ น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 ก.ค. 67 ปรับลดลงกว่า 1.923 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลงเพียง 0.25 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขนำเข้าน้ำมันเบนซินในฮ่องกงในเดือน พ.ค. 67 ปรับลดลงกว่า 27% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดอุปทานน้ำมันดีเซลจากรัสเซียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเริ่มกลับเปิดมาดำเนินการหลังเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุง
ข่าวเด่น