
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เรื่อง “ประชาชนคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งนายก อบจ.” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,188 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 9-12 กรกฎาคม 2567 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนรู้หรือไม่ว่าช่วงนี้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือ การเลือกตั้งนายก อบจ.ในหลายพื้นที่
สรุปวิเคราะห์ผลโพล : ประชาชนคิดอย่างไร กับ การเลือกตั้งนายก อบจ.
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ระหว่างวันที่ 9-12 กรกฎาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,188 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบผลที่น่าสนใจ ดังนี้
• ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาท้องถิ่น
พรรคก้าวไกลยังคงเป็นพรรคที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นมากที่สุดในการแก้ปัญหาท้องถิ่น ร้อยละ 32.53 นำหน้าพรรคเพื่อไทยที่มีคะแนนร้อยละ 19.79 โดยผลการเลือกตั้งนายก อบจ. จะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งระดับชาติครั้งต่อไปร้อยละ 77.44 หากนำผลมาวิเคราะห์ร่วมกันก็อาจทำให้เห็นกระแสของพรรคก้าวไกลที่เพิ่มสูงขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เช่นกัน
• สรุป
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่าจากผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนถึงความรับรู้และมุมมองของประชาชนต่อการเลือกตั้งนายก อบจ. ว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยประชาชนเห็นว่าอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” นั้นส่งผลต่อการเลือกตั้งซึ่งอาจเป็นอิทธิพลผ่านการสนับสนุนผู้สมัคร และยังกังวลเกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียง ดังนั้นการสร้างความโปร่งใสและความเข้าใจที่ชัดเจนในการเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาวินี รอดประเสริฐ อาจารย์โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การเมืองท้องถิ่นถูกจับตามองอย่างมากเพราะหลายพื้นที่มีการเลือกตั้งนายก อบจ. จากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลมีตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจในการเลือกนายก อบจ. คือ ประชาชนส่วนใหญ่ทราบว่านายก อบจ. มีหน้าที่ในการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีตัวเลขถึงร้อยละ 70.76 และตัวเลขต่อมาที่น่าสนใจ คือ ประชาชนคิดว่า “บ้านใหญ่” ที่เราทราบกันดีมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งไม่ใช่แค่ท้องถิ่นระดับใหญ่อาจรวมไปถึงท้องถิ่นทุกระดับ โดยตัวเลขอยู่ที่ร้อยละ 62.21 นำมาซึ่งการตัดสินจากประชาชนว่าผลการเลือกตั้งนายก อบจ.จะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองในการเลือกตั้งระดับชาติครั้งต่อไป หากมองจากผลสำรวจในข้อนี้ที่มีคะแนนสูงมากคงเป็นคำตอบให้กับหลายคนได้ว่าสำหรับประเทศไทยนั้น การเมืองระดับชาติมีผลกับการเมืองท้องถิ่นและการเมืองทั้งสองระดับนี้ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และเป็นโจทย์ใหญ่ให้บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย หากอยากได้รับเลือกตั้งครั้งต่อไปจะต้องทำอย่างไรกับการเมืองท้องถิ่น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาวินี รอดประเสริฐ อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ข่าวเด่น