สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์ข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ) ที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้* ซึ่งรวมถึงหลักเกณฑ์การดูแลรักษาทรัพย์สิน และการรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า (KYC) เพื่อให้ทรัพย์สินของลูกค้ามีความปลอดภัยและลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
ก.ล.ต. กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบธุรกิจจะมีสภาพคล่องเพียงพอรองรับการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ รวมทั้งการให้บริการธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าต่อผู้ลงทุน ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องและได้รับการดูแลทรัพย์สินอย่างปลอดภัย ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ก.ล.ต. จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และเปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการดังกล่าวโดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ ดำเนินการเรียงลำดับจากเบาไปหาหนัก เช่น เริ่มจากการระงับการให้บริการเฉพาะธุรกิจที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ การโอนทรัพย์สินและฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของลูกค้าไปยังผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ แล้วจึงล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
(2) ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องระงับการให้บริการด้านหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามประเภทที่กำหนด ยังสามารถรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อการลดฐานะของลูกค้าได้ เพื่อลดผลกระทบต่อลูกค้า
(3) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย ในกรณีที่มูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ประกอบธุรกิจเก็บรักษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวสามารถขอผ่อนผันการจำกัดการประกอบธุรกิจต่อ ก.ล.ต. ได้ โดยผู้ประกอบธุรกิจต้องแสดงได้ว่า ยังมีสภาพคล่องเพียงพอให้สามารถประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ตามปกติ
(4) เพื่อให้การโอนทรัพย์สินของลูกค้าไปยังผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่เป็นไปโดยเรียบร้อย จึงเปิดช่องให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถโอนทรัพย์สินของลูกค้ารายที่ติดต่อไม่ได้ไปยังผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ได้ และผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนสามารถให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อการลดการถือครองหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของลูกค้าที่รับโอนมาดังกล่าวระหว่างที่ยังรวบรวมและประเมินข้อมูลของลูกค้า (KYC) ไม่แล้วเสร็จได้ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด การโอนในลักษณะดังกล่าว ให้ใช้กับการโอนทรัพย์สินของลูกค้าในกรณีที่มีคำสั่งที่อาศัยอำนาจตามกฎหมายอื่น รวมถึงกรณีการโอนจากผู้ประกอบธุรกิจที่จะเลิกหรือโอนกิจการตามประเภทใบอนุญาตด้วย
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการดังกล่าวตามเอกสารรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=1005 และระบบกลางทางกฎหมาย http://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDA0MURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: bhumipisuth@sec.or.th sawarin@sec.or.th และ arthipha@sec.or.th จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2567
ข่าวเด่น