(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากที่นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำของกลุ่มฮามาสได้ถูกกองกำลังทหารของอิสราเอลสังหารในประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่กองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67 เพื่อสังหารผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
(+) สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.ค. 67 ปรับลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล
(+/-) เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ระดับ 5.25-5.50% เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในระยะยาว ทั้งนี้ มีโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าช่วงเดือน ก.ย. 67 หากอัตราดอกเบี้ยลดลงมาใกล้ระดับ 2% ตามเป้าหมาย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียในเดือน ส.ค. 67 คาดว่าจะปรับลดลง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินในญี่ปุ่นคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น จากช่วงวันหยุดฤดูร้อน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้เคียงราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต๊อกน้ำมันดีเซลในภูมิภาค Amsterdam-Rotterdam-Antwerb ปรับลดลง 3.5% สู่ระดับ 1.0 ล้านตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือน ส.ค. 67 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 18% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 0.6 ล้านตัน
ข่าวเด่น