กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ สมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย ร่วมสร้างสภาพแวดล้อมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล ปั้นไทยเป็นสวรรค์ดึงผู้สูงอายุทั่วโลกเข้าใช้บริการ ตั้งเป้าดันขึ้นแท่น ‘ฮับ’ ดูแลผู้สูงอายุโลก สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างมีความสุข โดยคาดหวังให้สถานบริการฯ เป็นทั้งเพื่อน พยาบาล และผู้ดูแลใกล้ชิด...สร้างความไว้วางใจ ความสบายใจ และความประทับใจให้คุณตา-คุณยายทั่วโลก มั่นใจ!! เศรษฐกิจภาคบริการไทยจะเป็นกำลังหลักสำคัญที่ดึงรายได้เข้าประเทศ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ สมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย มอบรางวัล ‘ผู้ประกอบการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ปี 2567’ แก่ผู้ประกอบธุรกิจและสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุไทยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีธรรมาภิบาลธุรกิจ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุได้อย่างตรงจุด ภายในงานอินเตอร์แคร์ 2024 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านการแพทย์ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกวัย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยวันนี้ (วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567) มีการมอบรางวัลฯ 3 ประเภท รวม 58 รางวัล ได้แก่
1) รางวัลสถานประกอบการมาตรฐานดี (Senior Care Business Quality Award 2024) จำนวน 18 รางวัล
2) รางวัลสถานประกอบการมาตรฐานดีเด่น (Excellent Senior Service Award 2024) แบ่งเป็น 4 สาขา ดังนี้
2.1 Best Quality Improvement Award จำนวน 15 รางวัล
2.2 Best Senior Service Innovation Award จำนวน 1 รางวัล
2.3 Best Clinical Practice Award จำนวน 11 รางวัล
2.4. Best Social Engagement Award จำนวน 2 รางวัล
3) รางวัลผู้บริหารองค์กรดีเด่น (Best CEO in Senior Healthcare Business 2024) จำนวน 11 รางวัล
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า การมอบรางวัลฯ ในครั้งนี้ สะท้อนถึงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจบริการของไทยที่ก้าวทันมาตรฐานการบริการเทียบเท่าสากล พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มีความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการพัฒนาผลิตภาพแรงงานภาคบริการและการขับเคลื่อนธุรกิจบริการไทยให้ได้มาตรฐาน ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจในการกำหนดนโยบายพัฒนาบริบทธุรกิจภาคบริการ ทั้งทักษะด้านภาษา การบริหารจัดการธุรกิจแบบมืออาชีพ การวางแผนและการตลาด ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มาตรฐานฝีมือแรงงาน มาตรฐานวิชาชีพ และมาตรฐานการให้บริการ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เกื้อหนุนให้ธุรกิจบริการของไทยเคลื่อนย้ายไปสู่ผลิตภาพที่สูงขึ้น มีภาพลักษณ์ที่ดี อำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการได้มากขึ้น และสามารถแข่งขันกับธุรกิจบริการประเภทเดียวกันกับประเทศต่างๆ รองรับการเปิดเสรีภาคบริการในอนาคต
ปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุไทยซึ่งเป็นธุรกิจบริการที่มีความโดดเด่นติดอันดับมีผู้ใช้บริการสูงเป็นลำดับต้นๆ ของไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ เฉพาะประเทศไทย ปี 2567 มีประชากรผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) จำนวนมากกว่า 13.2 ล้านคน หรือ 20.36% จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 66.05 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
ขณะที่ ‘ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ’ ก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน จากข้อมูลของคลังข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD DataWarehouse+) พบว่า ปี 2564 มีธุรกิจดูแลผู้สูงอายุจดทะเบียนจัดตั้ง จำนวน 116 ราย ทุนจดทะเบียน 465 ล้านบาท ปี 2565 จัดตั้ง 93 ราย (ลดลง 23 ราย หรือ 20%) ทุน 341 ล้านบาท (ลดลง 124 ล้านบาท หรือ 27%) และปี 2566 จัดตั้ง 111 ราย (เพิ่มขึ้น 18 ราย หรือ 19%) ทุน 179 ล้านบาท (ลดลง 162 ล้านบาท หรือ 48%) ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567) มีธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 743 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 4,040 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องรองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทุกปี
ขอแสดงความยินดีและขอชื่นชมผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุทุกท่านที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นเครื่องการันตีได้ถึงความมีคุณภาพของธุรกิจที่มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล มีธรรมาภิบาลธุรกิจ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ประกอบธุรกิจบริการทั้งธุรกิจประเภทเดียวกันและธุรกิจบริการประเภทอื่นๆ ถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการและการบริหารจัดการธุรกิจให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและสากล รวมทั้ง สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการที่สนใจธุรกิจดูแลผู้สูงอายุมีการเข้าลงทุนในธุรกิจฯ มากขึ้น สร้างการแข่งขันในตลาดที่สมบูรณ์ โดยผู้ใช้บริการมีโอกาสเลือกธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับตนเอง ทั้งรูปแบบและอัตราการให้บริการ สถานที่ และพิจารณาผู้ให้บริการที่ตนเองเชื่อมั่นและชื่นชอบ เพื่อให้การใช้ชีวิต ณ สถานดูแลผู้สูงอายุ ตรงตามความต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ ผู้สูงอายุหรือญาติที่ต้องการใช้บริการสถานดูแลผู้สูงอายุที่มีมาตรฐาน สามารถดูรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุได้ที่ https://www.facebook.com/thaielderly ของสมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย
.jpg)
ทั้งนี้ การบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจที่เร่งผลักดันธุรกิจให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล จะเป็นบันไดที่ส่งผลให้มีโอกาสก้าวสู่การเป็น ‘ฮับ’ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ดึงดูดผู้สูงอายุที่ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขให้เข้ามาใช้บริการในประเทศไทย โดยคาดหวังให้สถานบริการฯ เป็นทั้งเพื่อน พยาบาล และผู้ดูแลใกล้ชิด ช่วยสร้างความไว้วางใจ ความสบายใจ และความประทับใจแก่ผู้สูงอายุที่ใช้บริการ ทั้งนี้ มั่นใจว่าเศรษฐกิจภาคบริการของไทยจะเป็นกำลังหลักสำคัญที่สร้างรายได้เข้าประเทศ” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนนโยบายและแผนธุรกิจบริการ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02 547 5158 สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และ www.dbd.go.th 
ข่าวเด่น