(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดยังคงกังวลต่อภาพการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ซึ่งถือเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ภายหลังตัวเลขอัตราการว่างงานเดือน ก.ค. 67 ยังคงอยู่ที่ระดับ 5.2% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 5.1% นอกจากนี้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 5.1% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 5.2% และชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.3% สะท้อนถึงภาคอุตสาหกรรมที่ยังคงอ่อนแอ
(+/-) สถานการณ์ความตึงเตรียดในตะวันออกกลางยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงครั้งใหม่ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงไม่ได้ข้อสรุป แม้นายโจ ไบเดน ชี้ว่าการเจราจาดังกล่าวใกล้ที่จะบรรลุผล แต่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายยังคงเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจไม่สามารถบรรลุผลได้จากการที่หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลของอิสราเอลยังคงส่งสัญญาณที่จะไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวและจะเดินหน้าทำสงครามในฉนวนกาซาต่อไป
(+) Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ส.ค 67 ปรับลดลง 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 483 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ระดับ 107 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของออสเตรเลียจะยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูร้อนซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างเดือน ธ.ค. - ก.พ. ของทุกปี
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดีเซลสิงคโปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ส.ค. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% สู่ระดับ 12.02 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขดังกล่าวถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดีเซลของออสเตรเลียในเดือน มิ.ย. 67 ซึ่งปรับลดลง 5.39%
ข่าวเด่น