นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริง จ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศ จำนวน 2 กองทุน สำหรับผลการดําเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วยลงทุน กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 และ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Real Return (ES-GRR) ในอัตรา 0.0860 บาทต่อหน่วยลงทุน กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 รวมมูลค่าจ่ายเงินปันผลทั้ง 2 กองทุน อยู่ที่ประมาณ 24 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) เน้นลงทุนในกองทุน JPMorgan Investment Funds - Global Dividend Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C (acc) USD ซึ่งบริหารจัดการโดย JPMorgan Asset Management (Europe) ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกรวมถึงตลาดเกิดใหม่ที่สามารถสร้างรายได้ในระดับสูง ไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 67 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนหลัก ทั้งนี้ ในบางช่วงเวลากองทุนหลักอาจมีการลงทุนกระจุกตัวในบางหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมหรือกลุ่มประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุน และมีการลงทุนใน derivative เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน โดยกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) จดทะเบียนกองทรัพย์สินเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 และมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.4000 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.2000 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.8000 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 16 ส.ค. 2567)
ส่วนกองทุนเปิดอีสท์สปริง โกลบอล เรียล รีเทิร์น(ES-GRR) เน้นลงทุนในกองทุน GMO Global Real Return (UCITS) Fund Class A USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV กองทุนหลักมีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลกทั้งตราสารทุน, ตราสารหนี้, ตราสารตลาดเงิน, อัตราเลกเปลี่ยน, ตราสารที่เกี่ยวข้องกับดัชนีอ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์, REITs และตราสารอนุพันธ์กองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าว ซึ่งบริหารจัดการโดย Grantham, Mayo, Van Otterloo & Co. LLC โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (OECD G7) ประกอบด้วยประเทศแคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลกทั้งตราสารทุน, ตราสารหนี้,ตราสารตลาดเงิน, อัตราเเลกเปลี่ยน, ตราสารที่เกี่ยวข้องกับดัชนีอ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์, REITs และตราสารอนุพันธ์ ทั้งนี้ กองทุนเปิดอีสท์สปริง โกลบอล เรียล รีเทิร์น (ES-GRR) มีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2562 อยู่ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย ปี 2563 อยู่ที่ 0.08 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.16 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.1983 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.1802 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.0860 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.9045 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 16 ส.ค. 2567)
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนทั้งสองกองทุนนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ความเสี่ยงที่สำคัญของ 2 กองทุน ได้แก่ ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง และความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ เป็นต้น อนึ่ง กองทุนหลักของกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity อาจมีการลงทุนกระจุกตัวในบางหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมหรือกลุ่มประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก
ข่าวเด่น