แม้ SET ได้ปัจจัยหนุนจากเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย และเงินบาทแข็งค่าเป็นบวกต่อ fund flow อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่องแล้ว ให้ระวังแรงขายทำกำไร โดยมีปัจจัยกระตุ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ด้านแนวรับอยู่ที่ 1348 และ 1340 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1360 และ 1366 จุด ตามลำดับ
• พาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็กสันโฮลว่าเชื่อมั่นเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และไม่คาดว่าตลาดแรงงานจะชะลอตัวลงอีก ซึ่งตลาดมองความเห็นของนายพาวเวลปูทางสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
• ผู้ว่าธปท. กล่าวกนง. พร้อมปรับนโยบายดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ การเติบโตของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางที่คาดแต่อาจมีความเสี่ยงด้านต่ำมากขึ้น จึงมีแนวโน้มปรับนโยบายได้มากขึ้นหากภาวะการเงินตึงตัวเกินไป
• รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเผยว่าขณะนี้ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) อยู่ในระหว่างทำประชาพิจารณ์ตามเงื่อนไขของ รธน. เมื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนแล้ว จะนำร่างกฎหมายดังกล่าวเสนอ ครม. พิจารณาในช่วงปลายปีนี้
• หอการค้าไทยและส.อ.ท. หนุนรัฐบาลใหม่แจกเงินสดกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน วงเงิน 1.45 แสนลบ. ชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้รวดเร็ว พร้อมเสนอเพิ่มทำโครงการคูณ 2 กระตุ้นการใช้จ่ายประชาชนที่มีกำลังซื้อ
• ตลท. เผยมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน อาทิ กองทุน ThaiESG และวายุภักษ์ หากสามารถทำให้เกิดขึ้นได้เร็ว เชื่อจะเป็นกลไกสำคัญทำให้บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยกลับมาดีขึ้นได้ และเป็นประโยชน์ต่อตลาดทุนไทย
• ความไม่สงบในตะวันออกกลางกลับมาปะทุ หลังกลุ่มฮิซบอลเลาห์ได้โจมตีบริเวณอิสราเอลตอนเหนือด้วยมิสไซล์และโดรนจำนวนมากเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (25 ส.ค.) และต่อมาอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ
• Bloomberg รายงานว่า Apple เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ iPhone16 และอื่นๆ เช่น นาฬิกา และ Airpods รุ่นล่าสุด ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ และคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway Up จากคาดหวังความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อความชัดเจนของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลาย 3Q-4Q67 ส่วน Fund Flow มองว่ายังมีทิศทางไหลเข้าตลาดหุ้นไทยแต่ไม่แรง เนื่องจากภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างไรก็ดี มองเม็ดเงินลงทุนจะมีแนวโน้มไหลออกจากกลุ่มพลังงาน สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และการแพทย์ ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐคาดยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดไป และดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนคาดยังอ่อนแอ ซึ่งมองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วในระดับนึง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะ Sideway Up จากคาดหวังรัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วน Fund Flow มองยังมีทิศทางไหลเข้าตลาดหุ้นไทยแต่ไม่แรง จากเศรษฐกิจไทยยังโตต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
1) นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรหุ้นที่อยู่ในภาวะ Oversold และ Undervalue เลือก SCGP BCH KCE PTTGC OSP ขณะที่ให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุนในระยะสั้นสำหรับหุ้นที่อยู่ในภาวะ Overbought อย่าง COM7 VGI TRUE ADVANC
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากความคาดหวังรัฐบาลใหม่จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แนะนำ CPALL CPAXT TNP OSP CBG
3) นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรในหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC, TIDLOR) กลุ่มอสังหาฯ (AP SPALI SIRI) กลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF CKP)
4) หุ้นที่กลุ่ม Earnings Play ซึ่งมีโมเมนตัมกำไรยังดี โดย 3Q67 คาดเติบโต YoY และ QoQ ส่วน 2H67 คาดเติบโต HoH และ YoY อีกทั้ง Valuation ไม่แพง เลือก DELTA GULF BDMS BEM
DAILY TOP PICKS
HMPRO มองเป็นหุ้นได้อานิสงส์จากการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังเกิดน้ำท่วมในภาคเหนือ ขณะที่แม้คาด 3Q67 กำไรจะเป็นจุดตํ่าสุดของปีนี้ โดยทรงตัว YoY เนื่องจาก SSS ที่หดตัวลงใน 3Q67TD จะถูกชดเชยโดยการขยายสาขาและมาร์จิ้นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่กําไรจะเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q67 ส่วน Valuation ยังต่ำสุดในกลุ่มฯ โดยเทรด PER 67F ที่ 17.8 เท่า (-2SD)
AP มองเป็นนหุ้นได้อานิสงส์จากความคาดหวังแนวโน้มดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะขาลง รวมทั้งรัฐบาลใหม่จะสามารถเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถพลิกฟื้นใน 2H67 ขณะที่ 3Q67 คาดกําไรสุทธิจทำจุดสูงสุดของปีนี้ อีกทั้ง Valuation ยังอยู่ในระดับไม่แพงและมีจุดเด่นจ่ายปันผลสูงโดยให้ Div. Yield เฉลี่ยราวปีละ 8%
ข่าวเด่น