บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมทั้งหมด 63 โครงการ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งที่ 1/2567 คาดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกคงที่ [5.75 - 5.95]% ต่อปี (โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง) กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใดก็ได้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ โดยไม่จำกัดระยะเวลาและจำนวนครั้งตามดุลยพินิจของผู้ออกหุ้นกู้แต่เพียงผู้เดียว อัตราดอกเบี้ยจะปรับทุก ๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ราคาเสนอขายอยู่ที่หน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2567
โดย BGRIM ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ อยู่ที่ระดับ “A” แนวโน้ม “คงที่” และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้อยู่ที่ระดับ “BBB+” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคง ศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้สำหรับชำระคืนหนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งที่ 1/2562 ที่ผู้ออกหุ้นกู้สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนได้ เมื่อถึงวันครบอายุ 5 ปี ซึ่งจะตรงกับในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งหุ้นกู้ดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 8,000 ล้านบาท
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศยุทธศาสตร์ GreenLeap ที่พลิกโฉมการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก และผู้นำด้านการพัฒนา ด้านพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย โดยยังคงยึดมั่นบนพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ภายใต้ยุทธศาสตร์นี้จะควบคู่ไปกับจุดแข็งของบริษัทฯ ประกอบด้วย ความสามารถในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ การเป็นพันธมิตรที่ดีและได้รับความไว้วางใจ ความสามารถในการพัฒนาและบริหารโครงการ การจัดหาแหล่งเงินทุน เพื่อรองรับการเติบโตด้วยต้นทุนที่เหมาะสม และความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายของการเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ.2050 (ปี พ.ศ. 2593)
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานถึง 146 ปี โดยปัจจุบัน เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) กว่าห้าหมื่นห้าพันล้านบาท โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 4,051 เมกะวัตต์ ณสิ้นเดือน กรกฎาคม 2567 เป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 จากการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และเน้นการลงทุนพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก ณ ปัจจุบัน บริษัทฯอยู่ระหว่างการแสวงหาการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ตะวันออกกลางอย่างซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งยุโรป เพื่อกระจายความเสี่ยงจากต้นทุนพลังงาน
บริษัทฯ ยังได้รับการยอมรับจากผู้ประเมินความยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและในระดับสากล โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีความยั่งยืนในระดับ Top 10% ของอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคไฟฟ้า (Electric Utilities) ซึ่งเป็นบริษัทเดียวในภูมิภาคเอเชียจาก S&P Global ใน The Sustainability Yearbook 2024 ปีที่ 2 ติดต่อกัน ตลอดจนเป็นสมาชิก FTSE4Good Index Series และได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ระดับสูงสุด AAA ประจำปี 2566 พร้อมครองอันดับหุ้นยั่งยืนปีที่ 6 ปีติดต่อกัน โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึง MSCI ESG Rating ระดับ BBB นอกจากนี้ยังได้รับคะแนนในโครงการสำรวจและติดตามพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR) ในระดับดีเลิศ (ห้าดาว) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี
สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ คาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2567 ผ่าน 9 สถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ ได้แก่
· ธนาคารกรุงเทพ (ยกเว้นสาขาไมโคร) (โทร.1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bangkok Bank Mobile Banking)
· ธนาคารกรุงไทย (โทร. 02-111-1111) โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next
· ธนาคารกสิกรไทย (โทร 02-888-8888 กด 869) และรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
· ธนาคารไทยพาณิชย์ (โทร. 02-777-6784) หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
· ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (โทร.02-626-7777)
· บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร (โทร. 02-165-5555)
· บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (โทร.02-680-4004)
· บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (โทร. 02-695-5000)
· บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (โทร. 02-009-8351-56)
โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=641752
ข่าวเด่น