ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในแถบภาคเหนือของประเทศไทย นับเป็นอุทกภัยที่มีปัจจัยซับซ้อนมากกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติ และได้สร้างความเสียหายมากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่เกิดน้ำท่วมรุนแรงสุดในรอบ 40 ปี ถนนหลายสายโดนตัดขาด ผู้คนต่างติดอยู่ภายในบ้าน ขาดอาหารและน้ำดื่ม ไม่สามารถออกไปภายนอกได้ อีกทั้งยังเกิดดินถล่มจากภูเขา เข้าทับบ้านเรือน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน
ซึ่งในขณะนี้ทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน รวมถึงภาคประชาชน และภาคเอกชน ต่างระดมกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ที่มุ่งมั่นช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดมา โดยครั้งนี้ ทาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เดินหน้าโครงการ “CP-CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม” ร่วมกับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ด้วยกัน ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และอื่น ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ประสบภัยทางภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ด้วยการมอบวัตถุดิบอาหารสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่สด เนื้อเป็ดสด ไข่ไก่ ผ่านหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงครัวของศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.สุโขทัย โรงครัวพระราชทาน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17 และโรงครัวอื่น ๆ กว่า 10 แห่งเพื่อนำไปประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่
อีกทั้งบริษัทในเครือ CP และ CPF ยังร่วมมือกับกองทัพไทย ซึ่งมีกำลังคนเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง ด้วยการมอบอาหารสด อาหารแห้ง น้ำดื่มซีพี อาหารพร้อมรับประทานจากห้าดาว นอกจากนี้ บริษัทยังตระหนักถึงผลกระทบกับสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ประสบอุทกภัย จึงมีการนำอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์เจอร์ไฮและจินนี่ มามอบให้ทางกองทัพด้วยเพื่อนำไปกระจายแจกจ่ายต่อ
ซึ่งการมอบเสบียงอาหารดังกล่าว ทางเครือ CP ยังมีการระดมพนักงานจิตอาสา หรือ “ซีพี อาสา” ลงพื้นที่อุทกภัย ฝ่าน้ำท่วมส่งมอบอาหารให้แก่คนที่ได้รับผลกระทบตามบ้านเรือนด้วยตัวเองอีกด้วย เช่นเดียวกันกับกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อื่น ๆ ที่กลายเป็นเหมือนวัฒนธรรมของกลุ่มบริษัทในเครือไปแล้ว นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจขององค์กร ที่ตั้งใจดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของตนเอง ตลอดจนร่วมสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน เข้าช่วยป้องกันและฟื้นฟูภัยพิบัติและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
โดยสิ่งที่จะสามารถตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นขององค์กร ที่มุ่งขับเคลื่อนสังคมแห่งความยั่งยืนไปพร้อมกับการเติบโตของบริษัทในเครือ สามารถพิจารณาได้จากทั้งการที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 จาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียนประจำปี 2567 โดยสถาบันไทยพัฒน์ เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้ว นับเป็นการการันตีหมุดหมายของ CPALL ที่ตั้งตนเป็นองค์กรที่อยู่เคียงคู่ชุมชน สร้างสรรค์สังคมยั่งยืน ผ่านแนวคิด ESG ในการขับเคลื่อนธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ส่วนอีก 1 บริษัทในเครือ CP อย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ก็ได้รับการรับรองให้อยู่ในทำเนียบ ESG100 มาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 7 ปี เช่นเดียวกัน โดย CPF ก็มีเป้าหมายเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม อย่างเป้าหมายหลัก ได้แก่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero โดยเป็น 1 ใน 7 บริษัททั่วโลกที่ได้ดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture Guidance (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร จากองค์กร the Science Based Targets initiative (SBTi) อีกด้วย
จะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งความยั่งยืน ผ่านการ “ลงมือทำจริง” ในทุกแง่มุม ทั้งการประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ตลอดจนการเป็นจิตอาสาเข้าช่วยเหลือปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น เช่นการลงพื้นที่ลุยน้ำท่วมในภาคเหนือในปัจจุบัน ดังนั้นคงไม่ผิดนัก หากจะนับว่าองค์กรดังกล่าวเป็นกำลังสำคัญในภาคเอกชน ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน และผลักดันให้ไทยมีบทบาทสำคัญระดับนานาชาติในอนาคต
ข่าวเด่น