ในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ก.ย. นี้ คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้มีการส่งสัญญาณในการประชุมแจ็กสัน โฮลว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องลดดอกเบี้ย ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอลงสู่เป้าหมายที่ 2.0% โดยเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ เดือนส.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.5% YoY ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.6% YoY เล็กน้อย ประกอบกับตลาดแรงงานสหรัฐฯ สะท้อนภาพอ่อนแรงลง โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดที่ 142,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างเดือนส.ค. อยู่ที่ 4.2%
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเฟดอาจส่งสัญญาณผ่าน Dot Plot ปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในทุกการประชุมที่เหลือในเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ของปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.50-4.75% ณ สิ้นปี 2567 (รูปที่ 1) เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ภาวะ ‘Soft landing’ มากกว่าจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยลดลงสู่ระดับเป้าหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนส.ค. ล่าสุดยังคงเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองว่ายังคงไม่มีความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็วและรุนแรงถึงครั้งละ 0.50% ในการประชุมครั้งที่เหลือของปีนี้
ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่มองว่าเฟดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายถึงครั้งละ 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. หรือ ธ.ค. นี้ โดยจากการอ้างอิง Fed Funds Future ของ CME FedWatch Tool ณ วันที่ 12 ก.ย. 2567 ตลาดส่วนใหญ่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงมาอยู่ที่ราว 4.25-4.50% หรือ 4.00-4.25% ณ สิ้นปี 2567
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ฯ ได้อ่อนค่าอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ฯ กว่า 5.0% นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อมองไปข้างหน้า ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ฯ และค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนไปตามข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ออกมา
ในการประชุม FOMC ในเดือนก.ย. นี้จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเฟดอาจปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2567 ลงจากประมาณการรอบที่แล้ว โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ราว 2.4% ในปีนี้ ซึ่งในไตรมาส 4/2567 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่า 2.1% YoY ที่เฟดคาดการณ์ไว้ในประมาณการเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่มีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าได้
ข่าวเด่น