• มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศปี 2567 คาดโต 15.8% จากปีก่อน จากปริมาณความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนสัตว์เลี้ยง โดยพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากมีจำนวนสัตว์เลี้ยงมากที่สุดและผู้เลี้ยงมีกำลังซื้อ
• มูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยปี 2567 คาดโต 19.5% จากปีก่อนที่หดตัว 15.0% จากความต้องการของคู่ค้าหลักที่ทยอยฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ อาทิ สหรัฐฯ อิตาลี ญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 50% รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดรองที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะอังกฤษและนิวซีแลนด
ปี 2567 มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศจะอยู่ที่ 41,700 ล้านบาท ขยายตัว 15.8% จากปีก่อน จากปริมาณความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนสัตว์เลี้ยง ขณะที่กำไรของธุรกิจคาดว่าจะยังเพิ่มขึ้น สอดคล้องไปกับยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงที่โตและผลจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลดลง
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นพื้นที่ศักยภาพของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมีจำนวนสัตว์เลี้ยงมากและผู้เลี้ยงมีกำลังซื้อสูงกว่าภูมิภาคอื่น โดยมีสัตว์เลี้ยงอยู่ราว 3.1 แสนตัว คิดเป็น 5% ของจำนวนสัตว์เลี้ยงทั้งหมด อีกทั้งคนในพื้นที่ยังมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่าคนทั้งประเทศ
ปี 2567 คาดว่า มูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยจะอยู่ที่ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 19.5% จากปีก่อนที่หดตัว 15.0% จากความต้องการของคู่ค้าหลักที่ทยอยฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ อาทิ สหรัฐฯ อิตาลี ญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 50% รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดรองที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะอังกฤษและนิวซีแลนด์
การแข่งขันในตลาดส่งออกยังคงรุนแรง โดยเฉพาะกับคู่แข่งที่ได้เปรียบด้านราคาและระยะขนส่งที่ใกล้กับตลาดคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ไทยต้องเจอคู่แข่งอย่าง เม็กซิโก ที่มีข้อได้เปรียบในเรื่องระยะขนส่งที่ใกล้ หรือญี่ปุ่น ที่ไทยต้องแข่งกับเกาหลีใต้ ซึ่งได้เปรียบด้านราคา
ข่าวเด่น