เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เคลื่อนไหวในกรอบ 1440-1460 จุด"


SET ยังได้รับ sentiment ลบ จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า เป็นลบต่อทิศทาง fund flow กดดันดัชนี อย่างไรก็ตาม คาดเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ช่วยประคองดัชนี ทำให้คาด SET จะเคลื่อนไหวภายในกรอบระหว่าง 1440-1460 จุด

ประเด็นสำคัญ

• วานนี้ราคาหุ้น Tesla ปรับลด 3.49% หลังเผยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ 3Q67 ที่ 462,890 คัน ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนราคาหุ้น Nike ปรับลง 6.8% หลังประกาศยกเลิกคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน

• OPEC+ มีมติคงการลดกำลังผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน มาจากสมาชิก OPEC+ 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน (สิ้นสุดช่วงสิ้นปี 2568) และจากการมาตรการลดกำลังผลิตโดยสมัครใจจาก 8 ประเทศ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน (ทยอยกลับมาเพิ่มตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567)

• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำหนดภาษีในอัตราทั่วไปที่ 9.13% เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดแผงโซลาร์ของจีนผ่านบริษัทในอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และไทย และพิจารณาเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 90 วัน

• กกร. ประเมินช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วกดดันการส่งออกและเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งหากบาทแข็งค่าต่อในช่วงที่เหลือของปีอาจกระทบรายได้ส่งออก 1.8-2.5 แสนลบ. 

• กกร. เสนอ ธปท. ลดดอกเบี้ย 25bps ภายในปีนี้และอีก 50bps ในปีหน้า เพื่อลดผลกระทบทบจากภาวะบาทแข็งค่ารุนแรง และทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อร่วมกับกระทรวงการคลัง

• กกพ. ประกาศกำหนดการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟสสอง ทั้งหมด 2,180MW ในวันที่ 8 ต.ค. นี้ โดยผู้ที่เคยยื่นและผ่านเกณฑ์แต่ไม่ถูกรับซื้อในการประมูลรอบก่อน 198 รายจะได้รับสิทธิ์การพิจารณาก่อน

• กระทรวงพาณิชย์เผยเทศกาลกินเจคึกคัก พบคนออกมาจับจ่ายใช้สอย ชี้ได้อานิสงส์เติมเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบาง ด้านธพ. เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8M67 อยู่ที่ 156.37 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1%YoY

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะยังแกว่งตัว Sideway Up แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะๆ จากปัจจัยภายนอกและจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยที่จะกลับเข้าสู่ขาลง (คลังและธปท. จะมีการพูดคุยกันในสัปดาห์นี้) และนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทคาดจะยังหนุนการไหลเข้าของ Fund Flow โดยประเมินว่าหาก SET จะปรับขึ้นได้แรง ต้องเกิดจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ อิเล็กทรอนิกส์ และท่องเที่ยว ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีก่อนหน้านี้คาดจะยังให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนและสหรัฐคาดจะยังชะลอตัวลง  ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”   

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET จะยังแกว่งตัว sideway up แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะๆ จากปัจจัยภายนอกและจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1.  หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO

2.  นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) กลุ่ม REITs (LHHOTEL DIF)

3.  นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL CPALL BJC DCC และ TASCO ซึ่งจากสถิติปีที่เกิด La Nina หากลงทุนช่วงครึ่งหลัง ก.ย. และขายต้น พ.ย. คาดหวังจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.0%

ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทอย่างรุนแรงใน 3Q67 มองจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นที่มีรายได้จากการส่งออก แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนช่วงสั้น ได้แก่ TU GFPT CBG KCE ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็งค่า แนะนำ AAV GULF GPSC BCP

DAILY TOP PICKS

CPAXT: เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มพาณิชย์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น จากนั้นจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดของปีนี้ใน 4Q67 (เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ) ทั้งนี้ภายหลังควบรวมกิจการ synergy จะเริ่มมีให้เห็นใน 4Q67 และชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2568

DELTA: 2H67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น HoH และ YoY จากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี อีกทั้งยังมี upside จากการพัฒนาและการขายผลิตภัณฑ์ Power Supply ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องจ่ายค่า Technical Fee ให้กับทาง DELTA Taiwan ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 110 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ต.ค. 2567 เวลา : 11:45:22
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 6:51 pm