เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งในกรอบ ติดตาม GDP สหรัฐ"


 

คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ โดยกรอบล่างมีแนวรับ 1440-1445 จุด คาดรองรับได้ หลังดัชนีปรับลงต่อเนื่องก่อนหน้านี้ และเข้าสู่ภาวะ Oversold ทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม ตลาดที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1460-1470 จุด ประเด็นสำคัญ ติดตามรายงาน GDP สหรัฐฯ ใน Q3

ประเด็นสำคัญ

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ต.ค. โดย Conference Board ปรับขึ้นสู่ 108.7 สูงสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. ส่วนตัวเลขตำแหน่งงานว่างใหม่ (JOLTS) เดือน ก.ย. ลดลงสู่ 7.4 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ 

• สหรัฐฯ ออกมาตรการจำกัดบริษัทอเมริกันไม่ให้ลงทุนในเทคโนโลยีจีน ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ หน่วยประมวลผลควอนตัม และ AI เพื่อป้องกันเงินทุนและองค์ความรู้รั่วไหลและเอื้อการพัฒนาเทคโนโลยีจีน

• Reuters รายงานจีนกำลังพิจารณาเพิ่มหนี้อีก 10 ล้านล้านหยวนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ คาดก้อนแรกมูลค่า 6 ล้านล้านหยวนจะถูกประกาศหลังการประชุมสภาจีนเพื่อสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่น

• รมว. คลังเผยหลังหารือกับผู้ว่าฯ ธปท. ว่ารับได้หากจะคงกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% แต่ต้องมีมาตรการหนุนเงินเฟ้อสู่ 2% ด้วย และเตรียมเสนอนายกฯ พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 31 ต.ค.นี้ หนุน GDP ขยายตัว 2.7-2.8% 

• Equinix บริษัท Data Center ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ เผยแผนลงทุนในไทยวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะ 10 ปี BOI ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในเฟสแรกแล้ว 7,180 ลบ. และคาดเตรียมเปิดในปี 2570 

• รมว. ท่องเที่ยวฯ เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อน +1.6%WoW หนุนจากนักท่องเที่ยว Long Haul เป็นหลักซึ่งขยายตัวต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมในปีนี้ +29%YoY เป็น 28,378,473 คน

• สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มคลี่คลาย ทำให้ราคาน้ำมันปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังมีข่าวเนทันยาฮูจะจัดประชุมกับรัฐมนตรี ผู้นำทางทหาร และหน่วยข่าวกรอง เพื่อหาทางออกสงครามในเลบานอน

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัว  Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการ 3Q67 ของ บจ. ทั้งสหรัฐและไทย ที่คาดจะมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น และคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แต่คาด SET จะยังมี Upside จำกัด โดยมีแนวต้าน 1500 จุด เนื่องจากมองว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะส่งผลให้มีแรงกดดันต่อ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาในตลาด EM อีกทั้งตลาดยังอยู่ในช่วงปรับความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ทำให้ช่วงสั้นต้องระวังหุ้นที่ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยลงซึ่งราคาปรับตัวขึ้นมาสะท้อนความคาดหวังแล้ว รวมทั้งหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า อาทิ DELTA GULF ADVANC INTUCH เนื่องจากมองตลาดอยู่ในช่วง Rebalance ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

แม้ SET มีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ แต่ช่วงสั้นคาด Upside จำกัด หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงติดตามผลประกอบการ 3Q67 ของ บจ. ไทยกลุ่ม Real Sector และรอปัจจัยใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 

1. หุ้น Global Play ซึ่งผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย 3Q67 คาดกำไรเติบโต YoY และ 2H67 คาดกำไรยังแข็งแกร่ง HoH และ YoY อีกทั้งระยะสั้นยังได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าตั้งแต่ต้น ต.ค.  เลือก KCE TU MINT AOT

2. หุ้น Earnings Play ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และกำไร 3Q67 คาดเติบโต YoY และ QoQ เลือก BEM BCH BDMS AU TNP ขณะที่แนะนำระมัดระวังกลุ่มที่มีความเสี่ยง งบออกมาแย่กว่าตลาดคาด อาทิ กลุ่มพลังงาน, ปีโตรฯ และบรรจุภัณฑ์ 

3. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Div. Yield ขั้นต่ำ 3.5%, มี ESG Rating และ CG ระดับสูง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP ทั้งนี้แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา

4. สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

DAILY TOP PICKS

WHA: มองอยู่ในตำแหน่งที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดรายหนึ่งจากการขยายตัวของธุรกิจที่เป็นคลื่นลูกใหม่ เช่น Data Center ขณะที่ 3Q67 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ และ 4Q67 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ โดยปี 2567 คาดกำไรจะเติบโต 12.7%YoY และเติบโตต่อ 16.2%YoY ในปี 2568 หนุนด้วย Backlog และ FDI

AOT: 4QFY67 คาดกำไรปกติ 4.0 พันลบ. เพิ่มขึ้น 10%YoY (จากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง 13% QoQ (จากรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลง) และโมเมนตัมกำไรจะแข็งแกร่งขึ้น YoY และ QoQ ใน 1QFY68 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และยังมีปัจจัยบวกหนุนจากช่วง Golden Week ของจีน
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ต.ค. 2567 เวลา : 11:46:58
12-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 12, 2024, 3:05 am